การสร้างคุณค่าให้แบรนด์ของคุณ เพื่อให้ลูกค้าเต็มใจจ่ายเงินให้คุณ
" ทำไมผู้คนถึงเต็มใจที่จะซื้อนาฬิกา Rolex ที่แสนแพงเพื่อไว้ประดับข้อมือสักเรือนหนึ่ง "
" ทำไมผู้คนถึงเต็มใจที่จะซื้อรถBenz ราคาหลายล้านเพื่อขับแล่นบนถนนสักคันหนึ่ง "
" ทำไมผู้คนถึงซื้อกระเป๋าแบรนด์ดัง เพื่อถือประดับบารมีของตนเอง ถึงแม้จะแพงแค่ไหนก็ตาม "
และที่สำคัญผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าแสนแพงเหล่านี้ไม่เคยที่จะเสียดายเงินที่จ่ายไปเลย ทางกลับกันยังมีสินค้าที่ ถูกกว่านี้หลายร้อย หลายพันเท่า แต่เขากลับเสียดายต่อเงินที่ต้องเสียไป....คุณว่ามันแปลกหรือไม่?
คำตอบของสิ่งเหล่านี้ก็คือ " ก็เพราะพวกเขารู้สึกคุ้มค่าต่อเงินที่เสียไป " นั่นเองครับ
วันนี้ผมมีวิธีการสร้างคุณค่าให้กับแบรนด์ หรือสินค้าของคุณให้ผู้บริโภคได้รู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปซึ่งจะมีประโยชน์กับทุกท่านอย่างแน่นอนมาเริ่มกันเลยครับ
การสร้างคุณค่าให้เกิดขึ้นในใจของลูกค้านั้นประกอบไปด้วย 4 ส่วนสำคัญที่จะขาดไม่ได้ก็คือ 1.คุณค่าที่ได้รับจากอรรถประโยชน์ของสินค้า 2. คุณค่าที่ได้รับจากการบริการที่เป็นพิเศษ 3.คุณค่าที่ได้รับจากภาพลักษณ์ของสินค้า 4.คุณค่าที่ได้รับจากความเป็นตัวตนของลูกค้าเอง
1. คุณค่าที่ได้รับจากอรรถประโยชน์ของสินค้า
คือการที่ลูกค้าเสียเงินซื้อสินค้าจากคุณแล้วเขารู้สึกคุ้มค่าเต็มที่สมกับที่เราทำการโฆษณาไว้ โดยหากลูกค้าจะทำการซื้อสินค้าสักชิ้นหนึ่ง แน่นอนครับเขาจะต้องมีการเปรียบเทียบราคาก่อนซื้อ และเลือกสินค้าที่ตอบสนองต่อความต้องการของเขามากที่สุด อย่างเช่นคุณจะซื้อโทรศัพท์มือถือสักเครื่องหนึ่ง ในระดับราคาที่ใกล้เคียงกัน ไม่ห่างกันมากนัก คุณก็ต้องเลือกโทรศัพท์มือถือ ที่สร้างอรรถประโยชน์ให้ักับคุณอย่างเต็มที่ถูกไหมครับ ลูกค้าของคุณก็เช่นกัน เขาจะเลือกแบรนด์ที่ตอบสนองเขามากที่สุด
ฉะนั้นก่อนที่คุณจะทำการโฆษณาแบรนด์ของคุณ คุณต้องวางตำแหน่งแบรนด์ของคุณ ว่าสื่อถึงสินค้าว่ามีอรรถประโยชน์เด่นทางด้านไหนก่อนปล่อยออกไป เพื่อที่คุณจะได้กำหนดความเป็นไปของการโฆษณาแบรนด์ของคุณได้อย่างชัดเจน และสร้างอรรถประโยชน์อย่างเต็มที่ให้ลูกค้าของคุณรับทราบ
2. คุณค่าที่ได้รับจากการบริการที่เป็นพิเศษ
เป็นอรรถประโยชน์ที่ลูกค้าได้รับเพิ่มเติมจากสินค้าที่ซื้อไป ซึ่งอาจจะเป็นการตอบแทนลูกค้าที่อุดหนุน ซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง และเพื่อแสดงให้เขาเห็นว่าเขาคือคนพิเศษ อีกทั้งแสดงให้เห็นว่าเราเห็นความสำคัญของเขา เช่น มีการรับประกัน 1 ปีเต็ม ซ่อมฟรี 1 ปี หรืออาจจะเป็นบัตรกำนัล บัตรส่วนลดในการซื้อสินค้าชิ้นต่อไป เชิญมาร่วมรับประทานอาหารมื้อพิเศษเพื่อขอบคุณลูกค้า โดยการเลี้ยงอาหารเนื่องในโอกาสพิเศษเป็นประโยชน์มาก โดยคุณสามารถสอบถามถึงความพึงพอใจผลิตภัณฑ์ เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาพัฒนาสินค้าของคุณต่อไปในอนาคต
3. คุณค่าที่ลูกค้าจะได้รับจากภาพลักษณ์ของสินค้า
แบรนด์ของคุณมีการวางตำแหน่ง เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์และความภูมิใจของลูกค้าอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น นาฬิกา Rolex เน้นภาพลักษณ์เรื่องความหรูหรา ราคาแพง มีความสวยงามปราณีต ใครได้ใส่ก็จะเด่นในสังคม เครื่องซักผ้า Electrolux เน้นความแข็งแรง อึด ทนทาน ราคาแพง แต่ใช้งานไ้ด้นานกว่าเครื่องซักผ้าปกติ 10 เท่าเป็นต้น
ภาพลักษณ์นี้ ต้องเป็นภาพลักษณ์ที่ลูกค้าเมื่อใช้สินค้านี้แล้วเกิดความภูมิใจ พอใจสูงสุด ตาม
ธรรมชาติของมนุษย์เมื่อพึงพอใจอะไรสูงๆ จะมีการบอกต่อด้วยความภูมิใจ นี่แหละคือปัจจัยที่ทรงพลังที่สุดในการตลาด และการสร้างแบรนด์ คือ " การบอกต่อ " นั่นเอง ซึ่งใช้ได้ผลเสมอถึงแม้ยุคนี้จะเป็นยุคแห่งอินเตอร์เน็ตก็ตาม
4. คุณค่าที่แสดงถึงภาพลักษณ์ตัวตนของลูกค้า
ในที่นี้ก็คือ " ความภูมิใจ " ที่ลูกค้าได้มีการใช้สินค้าแบรนด์นี้อยู่ ยกตัวอย่างเช่น ลองคิดดูหากคุณได้มีโอกาสได้ใช้กระเป๋า หลุยส์ วิตอง ซักใบคุณจะรู้สึกอย่างไร ? จะภูมิใจมากๆ ใ้ช้ไหมครับ สินค้าที่คุณทำการตลาดอยู่ก็เช่นกัน คุณวางตำแหน่งแบรนด์ของคุณอย่างไร ชัดเจนเพียงใด เมื่อมีการวางแผนแล้ว ก็เดินหน้าไปให้สุดตัวโดยคำนึงถึงภาพลักษณ์ของลูกค้าที่ใช้สินค้าของคุณเป็นหลัก และที่สำคัญอย่างเผลอทำการตลาด โดยลืมตำแหน่งแบรนด์ที่คุณได้กำหนดไว้ตั้งแต่แรก หากคุณยังไม่เข้าใจเรื่องการวางตำแหน่งให้กลับไปอ่านบทความเรื่อง " การจัดวางตำแหน่งแบรนด์ "
และนี่คือวิธีการสร้างคุณค่าให้กับแบรนด์ของคุณที่ได้ผล.....ลองนำไปใช้ดูครับผมว่ามันไม่ยาก แต่คุณอย่าลืม ว่าทำอะไร ต้องคำนึงถึง " ความต้องการของลูกค้า " เป็นหลัก และต้องดำเนินการตามการจัดวางตำแหน่งของแบรนด์ที่คุณได้วางไว้ ตั้งมั่น ทุ่มเท ซ่ะอย่ีาง การสร้างแบรนด์ไม่มีคำตอบอื่นให้คุณนอกเสียจากความสำเร็จ
ธวัชชัย สุวรรณสาร
ที่ปรึกษาด้านการตลาดและการสร้างแบรนด์
081-1689081
kengwealthy@gmail.com
ขอบคุณบทความที่พูดถึงคุณค่าของสินค้าเหื่อสร้างแบนด์ ผมเปิดหาพอดี
ตอบลบผมกับนักเรียนำลังทำโครงการร้านค้าสะดวกซื้อสะดวกขายสไตรต์ตลาดผีวิถีไทย ประกวดชิงเงินรางวัล ของออมสิน ซึ่งหมดเขต ส่ง ๓๐ ก.ย. ๕๘ ผมขออนุญาตใช้หัวข้อทั้งสี่เพื่อให้นัเรียนพรีเซนต์
ขอบคุณอีกครั้ง
ยินดีครับครู ผมดีใจที่บทความผมมีประโยชน์กับคุณครู และนักเรียนครับ
ตอบลบขออนุญาตนำไปเล่าให้พนักงานในองค์กรฟังนะครับ ผมให้เครดิตใน Slide ไว้เรียบร้อยครับ
ตอบลบขอบคุณสำหรับบทความนี้มากนะคะ มีประโยชน์มากมายคะ กำลังหาตัวอย่างคะ
ตอบลบเพิ่งได้มีโอกาสเข้ามาอ่าน แต่บทความดีมากๆ เข้าใจง่าย
ตอบลบ