Header Ads

พันธมิตรทางการตลาด กลยุทธ์การตลาดยุคใหม่ที่ไม่ควรมองข้าม


 การตลาดยุคใหม่ เป็นการตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งแนวคิด และวิธีการทำการตลาด ซึ่งบางครั้งต้องมีการร่วมมือกันระหว่างสองธุรกิจ หรือมากกว่านั้น ในการเสริมแรงซึ่งกันและกันทางการตลาด

    การตลาดที่มุ่งแต่เน้นการทำประโยชน์ให้กับตนฝ่ายเดียวดูจะเก่าไปแล้ว ล้าสมัยไปแล้วในยุคปัจจุบัน  การตลาดยุคใหม่เน้นการผูกความสัมพันธ์ เพื่อให้เกิดพันธมิตรทางการตลาด อันจะนำมาสู่สายสัมพันธ์ทางการตลาดที่ยั่งยืนต่อไป

    ดังนั้นวันนี้ผมจึงนำบทความกลยุทธ์การตลาดยุคใหม่ ก็คือ " พันธมิตรทางการตลาด " ซึ่งจะมีประโยชน์มากสำหรับการทำการตลาดในธุรกิจของคุณ ซึ่งหากคุณนำไปปรับใช้กับการตลาด หรือธุรกิจของคุณ ธุรกิจของคุณจะทรงประสิทธิภาพขึ้นกว่าเดิม หรือธุรกิจที่กำลังประสบปัญหา ลองเปิดใจรับพันธมิตรทางการตลาดดู อาจจะเป็นอีกแนวทางหนึ่งสำหรับธุรกิจ และการตลาดของคุณก็เป็นได้   เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ




     พันธมิตรธุรกิจก็คือ ธุรกิจหรือองค์กรที่ไม่ใช่ธุรกิจใดๆ ที่ยินดีจะร่วมมือร่วมใจกันในการสร้างเสริมธุรกิจด้วยกัน เพื่อให้เกิดผลประโยชน์ที่เสริมกันทั้ง 2 ฝ่าย ได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีพันธมิตรทางธุรกิจ การเสาะแสวงหาและการสร้างพันธมิตรธุรกิจ จะทำให้ธุรกิจสามารถปรับกลยุทธ์สู่เป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็วขึ้น

      เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ต่างๆ เหล่านี้ อาจจะเป็นการเพิ่มของยอดขายอย่างรวดเร็ว การลดต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ การสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันเหนือคู่แข่ง การแทรกเข้าไปในตลาดที่ต้องการได้ง่ายขึ้น การได้เทคโนโลยีหรือความรู้ความสามารถที่ขาดอยู่มาเสริม การได้ความรู้หรือการเฉลี่ยประโยชน์จากความรู้ที่เดิมเต็มถูกนำมาใช้ประโยชน์ การนำนวัตกรรมใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด ฯลฯ

      การรวมตัวกันเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น การร่วมกันในการทำโปรโมชั่นหรือการสนับสนุนในการเปิดตัวสินค้าใหม่หรือโครงการทางการตลาด อาจทำให้เกิดช่องทางใหม่ที่จะนำสินค้าของเราเข้าไปสู่ตลาดที่ยังไม่สามารถเข้าไปถึงได้   โดยตัวอย่างที่เห็นในบ้านเราเช่น การรวมตัวกันระหวางไอศกรีม วอลล์  และ โอรีโอ ออกมาเป็นไอศกรีมวอลล์ผสมโอรีโอ ที่ให้ประสบการณ์แปลกใหม่กับผู้บริโภค สร้างกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเพิ่มเข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งทั้ง 2 องค์กรก็ได้รับประโยชน์จากการเป็นพันธมิตรในครั้งนี้

         ธุรกิจอาจแสวงหาพันธมิตรธุรกิจที่จะมาร่วมสร้างเสริมธุรกิจได้จากแหล่งต่างๆ ได้ เริ่มตั้งแต่การร่วมเป็นพันธมิตรธุรกิจซัพพลายเออร์หรือผู้ขายสินค้าหรือวัตถุดิบให้กับเรา การที่สามารถคุยกับซัพพลายเออร์เพื่อให้มาทำธุรกิจในลักษณะร่วมกัน จะทำให้เราสามารถลดต้นทุนสินค้าหรือวัตถุดิบนั้นๆ ได้ทันที เพราะต่างฝ่ายจะได้รับผลประโยชน์ที่เกิดจากการสร้างกำไรได้เพิ่มขึ้นด้วยกัน หรืออาจเป็นการร่วมมือกันที่จะพัฒนาหรือปรับปรุงกระบวนการผลิตของเราให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือการลดของเสียให้น้อยลง ซึ่งก็ล้วนแต่จะนำมาซึ่งต้นทุนการผลิตที่ลดลงและสัดส่วนกำไรที่จะเพิ่มมากยิ่งขึ้น

        ตัวอย่างของการเป็นพันธมิตรร่วมกันระหว่างซัพพลายเออร์กับเจ้าของหรือผู้ผลิตสินค้า ได้แก่ เจ้าของสื่อสิ่งพิมพ์หรือหนังสือพิมพ์กับโรงงานกระดาษ

        ในทางกลับกัน เรายังสามารถสร้างพันธมิตรธุรกิจขึ้นโดยการร่วมเป็นพันธมิตรธุรกิจกับลูกค้าของเรา การร่วมธุรกิจกับลูกค้าในรูปของพันธมิตรระยะยาวจะทำให้เราสามารถมีแหล่งรองรับสินค้าของเราได้อย่างสม่ำเสมอ ในระยะเวลายาวนานตามสัญญาที่ตกลงร่วมกับลูกค้าไว้ สิ่งที่จะเกิดตามมาจากการได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับลูกค้าของเราก็คือ การลดลงของต้นทุนการตลาดหรือต้นทุนการประชาสัมพันธ์ที่ต้องใช้ไปเพื่อดึงดูดลูกค้าไม่ให้เปลี่ยนใจไปใช้สินค้าของคู่แข่ง

ตัวกลางระหว่างเรากับลูกค้า โดยตรงที่อาจจะร่วมงานกันในรูปแบบของพันธมิตรธุรกิจได้แก่ผู้ที่เป็นเอเย่นต์ ตัวแทนหรือเป็นผู้จัดจำหน่ายของเรานั่นเอง การที่สามารถร่วมมือร่วมใจกับเอเย่นต์หรือผู้แทนจำหน่ายจะทำให้สินค้าของเรา สามารถกระจายไปสู่มือของผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวางในระยะเวลาที่รวดเร็วมากกว่าความพยายามของเราที่จะทำการกระจายสินค้าด้วยตัวเองหลายสิบเท่าตัว

การเป็นคู่ค้าในรูปของพันธมิตรธุรกิจของค่ายรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์กับเอเย่นต์ เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ในบ้านเรา การร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกับคู่แข่งก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ ในสภาพแวดล้อมของการแข่งขันทางการค้าอย่างรุนแรงเฉกเช่นในปัจจุบันนี้ การรวมกันของคู่แข่ง อาจทำให้เกิดการขยายตัวของส่วนแบ่งตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงในลักษณะของหนึ่งบวกหนึ่ง เท่ากับ สาม หรืออาจเป็น สี่ ห้า หกหรือเจ็ด ก็เป็นได้

การเป็นพันธมิตรกับองค์กรไม่แสวงหากำไร เช่น สถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยหรือหน่วยงานวิจัยต่างๆ อาจทำให้เราสามารถเข้าถึงผลงานวิจัยหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าการต้องใช้เงินทุนไปซื้อเทคโนโลยีมาโดยตรง หน่วยงานราชการหลายต่อหลายแห่งในปัจจุบัน เปิดกว้างให้กับธุรกิจ เพื่อเข้ามาร่วมโครงการต่างๆ ที่จะช่วยพัฒนาธุรกิจให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันหรือทำให้ธุรกิจแข็งแกร่งขึ้นได้ในด้านการบริหารและจัดการธุรกิจ

นอกจากการได้แหล่งความรู้หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ จากการเข้าร่วมโครงการหรือเป็นพันธมิตรกับหน่วยงานไม่แสงหาผลกำไรเหล่านี้แล้ว ผลพลอยได้ที่อาจเกิดขึ้นตามมาอย่างคาดไม่ถึงก็คือการสร้างภาพพจน์ที่ดีให้กับธุรกิจ หรือการได้รับการประชาสัมพันธ์สู่สังคมการช่วยเหลือสังคมเป็นการประชาสัมพันธ์ให้กับธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาจเสียค่าใช้จ่ายไม่มากหรือไม่เสียค่าใช้จ่ายเลยก็เป็นได้

นอกจากนี้ ธุรกิจยังอาจเลือกสร้างพันธมิตรธุรกิจได้กับเพื่อนต่างอุตสาหกรรมก็ได้ อุตสาหกรรมหรือธุรกิจที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีทางที่จะร่วมกันส่งเสริมการขายให้เกิดผลสะท้อนที่ดีมากขึ้นกว่าที่จะทำในรูปแบบต่างฝ่ายต่างทำ เราจะเห็นได้ชัดเจนจากการเป็นพันธมิตรธุรกิจกันระหว่างธุรกิจการเงินในรูปของบัตรเครดิตต่างๆ ที่มีระบบสะสมแต้มเพื่อแลกสินค้าต่างๆ ตั้งแต่ของเด็กเล่น อุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวเรือนไปจนถึงการให้ที่พักในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ

หากธุรกิจต่าง จะคอยสังเกตการรวมตัวกันของพันธมิตรธุรกิจต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเชิงกลยุทธ์ที่มีให้เห็นมากมายในปัจจุบัน ท่านก็อาจจะมองเห็นรูปแบบที่ท่านอาจนำมาใช้กับธุรกิจของท่านได้บ้างเช่นเดียวกัน แทนที่จะต้องเคร่งเครียดตรากตรำปั้นแต่งการเจริญเติบโตของธุรกิจด้วยตนเอง น่าจะลองหันมาใช้กลยุทธ์พันธมิตรธุรกิจดูบ้าง อาจได้ตัวช่วยผ่อนแรงที่ดีได้

อย่างไรก็ตาม การเป็นพันธมิตรธุรกิจ ต้องอาศัยหลักการของการได้รับผลประโยชน์หรือผลตอบแทนร่วมกัน ในลักษณะที่เรียกว่า win-win ทั้ง 2 ฝ่าย ไม่มีใครต้องเสียผลประโยชน์หรือเสมอตัว ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งได้แต่เพียงฝ่ายเดียว กลยุทธ์นี้จึงจะสามารถบรรลุความสำเร็จได้ตามวัตถุประสงค์ที่คิดไว้ไม่ปล่อยให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนั่งเคียดแค้นอยู่แต่ฝ่ายเดียว !!!!

                                                                                              อ้างอิงจาก - หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ



ธวัชชัย สุวรรณสาร
ที่ปรึกษาทางการตลาด และการสร้างแบรนด์
081-1689081
kengwealthy@gmail.com

ไม่มีความคิดเห็น