ชื่อบริษัท...สำคัญไฉนกับการตลาดของคุณ
เมื่อคุณเปิดธุรกิจใหม่ เปิดบริษัทใหม่ การตั้งชื่อนั้นสำคัญมากในการแนะนำบริษัทคุณเองให้เป็นที่รู้จัก
การตั้งชื่อบริษัท ถือว่าเป็นแบรนด์อย่างหนึ่งที่แสดงถึงภาพลักษณ์ขององค์กร ตั้งชื่อได้ดีจะเป็นที่น่าจดจำ ตั้งชื่อแย่ๆ ก็ยากที่จะทำให้การตลาดที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของบริษัทยากลำบากไปด้วย ซึ่งจะนำมาซึ่งยอดขายที่ตกต่ำลง
วันนี้ผมได้พบกับบทความ " 10 คำแนะนำ...ในการตั้งชื่อบริษัท " ผมเห็นว่าเป็นประโยชน์ดีในแง่ของการตลาด โดยคำแนะนำดังกล่าวนี้ไม่ได้เจาะจงว่า จะเป็นการตั้งชื่อบริษัทใหม่เท่านั้น คุณสามารถนำคำแนะนำนี้ ไปเป็นแนวคิดในการตั้งชื่อแบรนด์สินค้าของคุณได้อีกด้วย
โดยหากคุณสามารถตั้งชื่อได้อย่างเหมาะสมกับบริษัท ถือว่าคุณสามารถเริ่มต้นได้ดี และการเริ่มต้นได้ดี ก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วจริงไหมครับ
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มกันเลยครับ>>>
1. ให้ความสำคัญกับชื่อ การตั้งชื่อบริษัทหรือสินค้านั้นเป็นเรื่องสำคัญ เพราะมันจะเป็นชื่อที่คุณจะต้องใช้ในการทำการตลาดด้วย ชื่อบริษัทมีผลต่อภาพลักษณ์และจุดยืนในตลาด ดังนั้นอย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล่นๆ
2. หลีกเลี่ยงการเล่นคำในชื่อ การเล่นคำมากไปหรือใช้คำแผลงๆ อาจจะทำให้ลูกค้าจำยาก การใช้คำที่ผวนได้จะส่งผลต่อศีลธรรมอันดีงาม และอาจโดนวิพากษ์วิจารณ์ได้
3. ใช้อักษรย่อก็สะดวกดี ไม่จำเป็นต้องเป็น CP การใช้ตัวอักษรย่อชื่อบริษัทอาจจะทำให้การโฆษณาหรือสื่อสารง่ายขึ้น แต่นักธุรกิจขนาดเล็กคงไม่มีกำลังทั้งกายและเงินมากพอที่จะคอยบอกกลุ่มเป้าหมายว่าชื่อบริษัทนี้มีความหมายอย่างไร ดังนั้นให้ใช้ชื่อเต็มที่ไม่ต้องยาวนักจะดีกว่า
4. เน้นจุดเด่น คุณสามารถตั้งชื่อให้เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของคุณที่คิดว่าเด่นเป็นจุดขายให้บริษัท คิดง่ายๆ ว่า ”บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องเฉพาะเท่านั้นที่ลูกค้าต้องการ”
5. ห่างคุกไว้เป็นดีกว่า คุณไม่ควรใช้ชื่อให้ใกล้เคียงบริษัทที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว อีกทั้งชื่อที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์ด้วย ตัวอย่างเช่น กรณีของนาย Victor Moseley ที่เมืองอลิซาเบท รัฐเคนตักกี้ ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ใช้ชื่อ Victor's Secret เป็นชื่อร้านขายของขวัญสำหรับผู้ใหญ่และชุดชั้นในสตรี เมื่อฝ่ายกฏหมายของ Victoria's Secret (ร้านชุดชั้นในสตรีชื่อดังของสหรัฐฯ) พบเข้าจึงได้ยื่นหนังสือฟ้องร้านของนายวิคเตอร์ในข้อหาละเมิดชื่อบริษัท แม้เขาจะรีบเปลี่ยนชื่อเป็น Victor's Little Secret ก็ยังโดน Victoria's Secret ฟ้องอยู่ดี
6. มองการณ์ไกล ธุรกิจขนาดเล็กหลายแห่งคิดว่าจะดำเนินธุรกิจแต่เพียงในอำเภอเมืองหรือจังหวัดเท่านั้น แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าชื่อบริษัทจะต้องจำกัดด้วยสถานที่ที่คุณตั้งบริษัทเท่านั้น เพราะคุณอาจขยายกิจการไปจังหวัดอื่น หรือทั่วประเทศเลยก็ได้
7. หลีกเลี่ยงชื่อตัวเอง เจ้าของบริษัทหลายท่านมักจะใช้ชื่อตัวเองตั้งเป็นชื่อร้าน ตัวอย่างคือร้านทองต่างๆ ที่แสนจะจำยากเย็น ข้อเสียคือหากคุณวางแผนจะขายกิจการในอนาคต ชื่อร้านที่เป็นตัวบุคคลเช่นนี้ไม่ดึงดูดใจผู้ซื้อเลยเมื่อเทียบกับบริษัทที่สร้างชื่อจากสินค้าหรือบริการ
8. ให้คนอื่นช่วยอ่านออกเสียง หากอยากใช้ชื่อบริษัทที่แปลกๆ หรือใช้ภาษาท้องถิ่น ลองให้คนอื่นอ่านออกเสียงดูว่า เขาได้อ่านง่ายหรือออกเสียงถูกหรือไม่
9. ใช้ชื่อที่ขึ้นเว็บง่าย ผู้บริโภคนั้นโดนกรอกหูกรอกตาด้วยชื่อบริษัทร้านค้าทุกวันอยู่แล้ว งานของคุณคือต้องเลือกชื่อที่ผู้บริโภคจะจำได้ง่าย ชื่อเว็บไซท์ควรเป็นชื่อเดียวกับบริษัทและพยายามอย่าขีดเส้นระหว่างคำ เพราะมันจำยาก
10. ตรวจดูว่าไม่ใช่ชื่อซ้ำ จะตั้งชื่อบริษัทให้ดีทั้งทีควรใช้เวลาสำรวจดูว่าไม่มีคนอื่นใช้ก่อนอยู่แล้ว แต่ถ้าหากมีก็อาจะปรับชื่อให้คล้ายๆ กันหากว่าไม่ใช่ธุรกิจที่คล้ายกัน คุณสามารถค้นหาและจองชื่อนิติบุคคล ได้ที่เว็บไซท์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ www.dbd.go.th
ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก www.smethailandclup.com
ธวัชชัย สุวรรณสาร
ที่ปรึกษาด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์
081-1689081
kengwealthy@gmail.com
Post a Comment