การใช้ความกลัวของคนในทำการตลาด ( ตอนจบ )
คุณเคยศึกษาหรือไม่ว่า ตลาดของสินค้าที่คุณกำลังทำตลาดอยู่นั้น มีความกลัวอะไรในใจของกลุ่มเป้าหมายที่แฝงอยู่
หรือว่าหน้าที่ของคุณคือ มีิสินค้าอยู่ในมือสิ่งเดียวที่คุณคิดอยู่ก็คือ ทำอย่างไรที่จะทำให้ิสินค้าออกจากคุณ โดยเร็วที่สุด หากคุณคิดเช่นนั้น การตลาดคุณล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
ตลาดทุกๆ แห่ง กลุ่มเป้าหมายของคุณทุกกลุ่มมีความกลัวแฝงอยู่ ซึ่งหากคุณสามารถมีทางออกให้กับความกลัวได้ คุณก็สามารถนำความกลัวมาใช้ในการทำการตลาดกับสินค้า และบริการของคุณได้ไม่ยากนัก
โปรดตั้งคำถามถามตัวคุณเองว่า " สินค้า หรือบริการของคุณสามารถบรรเทาปัญหา ที่สามารถทำให้กลุ่มเป้าหมายของคุณได้ัรับความเจ็บปวดในเวลานี้ และในอนาคตได้อย่างไร "
ผมยกตัวอย่างที่ชัดมากๆ เช่น เครื่องตัดไฟป้องกันไฟฟ้าช็อตลัดวงจร ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีการช็อตของกระแสไฟฟ้าในบ้าน หรืออาคาร ซึ่งที่เรียกกันแบบชาวบ้านว่า ไฟฟ้าลัดวงจร อุปกรณ์ดังกล่าวจะตัดไฟโดยอัตโนมัติีัทั้งหมด ทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดอัคคีภัยได้มากถึง 90%
แต่คุณสังเกตไหมว่าผู้คนส่วนใหญ่จะเดินผ่านมันไปเฉยๆ ทั้งๆที่มันก็ตั้งโชว์อยู่บริเวณตู้แสดงสินค้า แถมมีการตั้งป้ายออกจะชัดเจน สาเหตุเนื่องมาจากว่า ความเจ็บปวดนั้นยังไม่เกิดขึ้น ผู้คนโดยทั่วไปหรือกลุ่มเป้าหมายยังไม่เคยรู้สึกถึงความเจ็บปวดนั้นว่าเป็นอย่างไร?
หากเราตั้งคำถามว่า อะไรคือความเจ็บปวดอันแสนสาหัสที่เครื่องตัดไฟ สามารถช่วยบรรเทาความเจ็บปวดนั้นได้ ที่ผมจะบอกต่อไปที่สำคัญมากๆ ไม่แพ้กัน ในการนำความกลัวมาทำการตลาดก็คือ ให้คุณ " นำความเจ็บปวดที่อยู่ในอนาคต ให้มาอยู่ในปัจจุบันให้ได้ "
ซึ่งความเจ็บปวดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด หากไม่มีเครื่องตัดไฟที่ภายในบ้านก็คือ การสูญเสียทรัพย์สินทุกอย่างที่อุตสาห์ เก็บมาทั้งชีวิต ทั้งที่เครื่องตัดไฟมีราคาไม่กี่พันบาท แต่สามารถป้องกันทรัพย์สิน ที่อาจจะสูญเสียไปทั้งหมด
คุณอาจจะบรรยายจินตนาการในเนื้อความโฆษณาว่า " คุณจะรู้สึกอย่างไรเมื่อเห็นไฟ กำลังเผาบ้านของคุณอย่างหนัีกโดยที่คุณไม่สามารถทำอะไรได้ สิ่งที่ทำได้คือมองบ้านของคุณค่อยๆ หายไปกับไฟที่เผาอยู่ " ซึ่งคุณอาจจะเสริมความกลัวด้วยการทำภาพบ้านที่ำกำลังถูกไฟไหม้ และมีคน 1 คนดูบ้านที่ำลังไฟ้ไหม้อยู่.....ลองคิดดูสิครับหากคุณกำลังมองภาพนั้นอยู่คุณจะรู้สึกอย่างไร ความกลัวใช่ไหมครับ
หรือคุณอาจจะนำคนที่เคยประสบอัคคีภัย มาแบ่งปันประสบการณ์ว่าเขารู้สึกเช่นไร เมื่อต้องสูญเสียทุกอย่างไป ซึ่งวิธีการนี้ได้ผลมากๆ การแบ่งปันประสบการณ์แทบจะไม่ต้องแทรกการโฆษณาสินค้าตรงๆ เข้าไปในขณะสัมภาษณ์เลย.....เรื่องราวจะถูกผูกเข้ากับสินค้าเครื่องตัดไฟโดยอัตโนมัติ การตลาดโดยใช้ความกลัวได้ทำหน้าที่ของมันแล้วครับ
สิ่งที่ตามมาคืออะไร.....ยอดขายของเครื่องตัดไฟที่เพิ่มมากขึ้นไงครับ
ลองทำไปใช้ดูน่ะครับ แต่ขอเตือนอย่าใช้กลยุทธ์ความกลัวมาทำการตลาด ทุกครั้งจนเป็นสัญลักษณ์การทำตลาดขององค์กร หรือสินค้าของคุณ ยังมีักลยุทธ์อีกมากมายครับที่จะนำไปใช้ คิดดูสิครับมีคุณเพียงรายเดียวหรือเปล่าที่ใช้กลยุทธ์ความกลัวมาทำการตลาด เป็นไปไม่ได้หรอกครับ ฉะนั้นคุณต้องปรับตัว และทำการตลาดให้แตกต่าง โดยไม่เจาะจงกลยุทธ์เดียวในการทำการตลาด ให้คำนึงถึงแบรนด์ของคุณ ต่อสายตาผู้คนด้วยครับผม
ธวัชชัย สุวรรณสาร
ที่ปรึกษาด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์
081-1689081
kengwealthy@gmail.com
Post a Comment