Header Ads

กลยุทธ์จุดกระแสตลาดดิจิตอลในยุค 4.0 ให้ยอดขายคุณปัง ปัง

     ปฏิเสธไม่ได้เลย   ว่ายุคนี้เป็นยุคที่ผู้บริโภคเชื่อมโยงถึงกัน และเป็นยุคที่กลุ่มคนมีอิทธิพลมากที่สุดในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค โดยกลุ่มที่ว่านี้คือกลุ่ม ที่อยู่ในสังคมออนไลน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสื่อสังคมออนไลน์ยอดฮิต เช่น Facebook  Twitter  Line  IG  โดยพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในยุคนี้ของผู้บริโภครุ่นใหม่คือ  " การต้องการที่จะลองใช้สินค้าก่อนคนอื่น "

    สถิติการใช้อินเตอร์เน็ตจากสถิติแล้ว คนไทยใช้อินเตอร์เน็ตเฉลี่ยวันล่ะ เกือบ 7 ชั่วโมง หรือ 49 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ซึ่งถือว่าสูงมากๆ  และที่ผ่านมาคุณสังเกตุดูจะเห็นว่า แทบทุกแบรนด์ของไทย จะใช้สื่อทางอินเตอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในการส่งเสริมการขาย หรือการทำกิจกรรมทางการตลาดมากมาย จนผู้บริโภคยุคใหม่ เมื่อเข้ามาเห็นสินค้า จากแบรนด์ดังๆ เหล่านี้ทำให้เกิดกระแส การแชร์ บอกต่อภายในกลุ่มของตนเอง และสร้างเครือข่ายกระแสบอกต่ออันทรงพลัง ที่เกิดขึ้นอย่างไม่รู้จบ


       เมื่อมีการแชร์ข้อมูลในตัวสินค้า หรือแบรนด์ที่สนใจแล้ว ต่อไปจะเกิดการรวมกลุ่ม ของคนที่ชอบแบรนด์สินค้านี้ ดังนั้นหากธุรกิจ หรือนักการตลาดต้องการเข้าหากลุ่ม ชุมชนออนไลน์ในลักษณะนี้ ควรใช้ข้อมูลที่ตรงไปตรงมาเกี่ยวกับสินค้าโดยตรง ไม่ควรอ้อมค้อม  โดยเน้นถึงการสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มนี้โดยตรง ไม่มุ่งแต่ขายสินค้าอย่างเดียว ต้องคิดในแง่ของการที่ผู้บริโภคภายในกลุ่มนี้ ได้ประโยชน์ด้วย  เหตุที่ทำเช่นนี้ ก็เพื่อกระตุ้นกระแสการแชร์ และบอกต่อของสมาชิกในกลุ่มนั่นเองครับ

       กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ เพื่อปลุกกระแส แบรนด์ และสินค้าของคุณให้ดัง แบบปังๆ นั้นวันนี้ผมจะมาฝากไว้ เพื่อให้คุณ นำไปปรับใช้ 8 ด้านด้วยกัน เรามาเริ่มกันเลยครับ

      MAJOR CHANGE: สินค้าต้องพัฒนา เปลี่ยนแปลง พอที่จะจูงใจคนให้แชร์ความคิดเห็น

       สินค้าเดิมๆ กลยุทธ์เดิมๆ แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย กลยุทธ์น่าเบื่อแบบนี้ ใช้ไม่ได้ผลแล้วครับ กับยุคการตลาด 4.0 สินค้าที่มีความแตกต่าง พัฒนาอยู่เสมอเพื่อลูกค้า ต่างหาก ที่คุ้มค่าแก่การที่ผู้บริโภคจะแชร์ต่อ แบรนด์ที่สินค้ามีการพัฒนา เปลี่ยนแปลงให้ทันสมัยตลอดเวลา คือผู้ชนะในยุคนี้

     OPINION LEADER: หาคนที่นำความคิดคนอื่นให้เจอ และให้ทดลองใช้สินค้า

     ในกลุ่มแต่ละกลุ่มในสังคมออนไลน์ จะมีผู้นำทางความคิดอยู่ในแต่ละกลุ่ม สังเกตุให้ดี และเน้นให้บุคคลที่มีิอิทธิพลทางความคิดแต่ละกลุ่มนี้ ให้ลองใช้สินค้าให้ได้ ไม่ว่าวิธีไหนก็ตาม หากให้คนกลุ่มนี้ประทับใจจากสินค้าได้ มูลค่าการตลาดของสินค้า และแบรนด์คุณจะต้องปัง แน่นอน

     NEED FULFILLMENT: สินค้าต้องเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคโดยเฉพาะเรื่องไลฟ์สไตล์

     สินค้า และแบรนด์ของคุณตรงกับ สไตล์ชีวิตของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหรือไม่ คุณควรปรับสินค้าให้สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตประจำวัน ของผู้บริโภคเป้าหมายให้มากที่สุด หากตรงกับไลฟ์สไตล์ ของเขาก็จะเกิดกระแสพูดถึงสินค้า และแบรนด์นี้ และอะไรจะตามมา คุณคงคิดออกน่ะ

    ENGAGEMENT: สร้างความผูกผันกับผู้บริโภคโดยการสร้าง Brand Community เพื่อให้คนที่ยึดมั่นในแบรนด์อยู่รวมกัน สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูล และเป็นกระบอกเสียงในการบอกต่อสินค้า

   เน้นการสื่อสาร กับกลุ่มสังคมออนไลน์เหล่านี้ครับ ควรมีการสื่อสารข้อมูล แลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ และรวดเร็ว เพื่อเป็นการสร้างความร่วมมือ การอยู่ร่วมกัน แก้ไขปัญหาร่วมกัน แชร์ข้อมูลในกลุ่มร่วมกัน  ซึ่งจะเป็นการทำให้กลุ่มดังกล่าว เป็นกระแสการบอกต่อสู่กลุ่มอื่นๆ ต่อไป ระวังอย่าสื่อสารที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากเกินไป ไม่เช่นนั้น คุณอาจจะถูกกลุ่มเหล่านี้ เขี่ยกระเด็นได้น่ะครับ

     TREND: ทันกระแส จับกระแสให้ทันว่าอะไรจะมา

      กระแสอะไรมาแรงคุณควรศึกษาเทรนด์ อย่างต่อเนื่องของผู้บริโภคยุคใหม่ เรื่องราวอะไรมาแรง ความนิยมอะไรกำลังมา ที่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคได้  คุณในฐานะนักธุรกิจ ต้องศึกษาครับ ไม่ควรปล่อยให้ตนล้าสมัย   ข่าวสารยุคใหม่นี้รวดเร็วน่ะครับ  หากไม่ติดตามคุณอาจจะพลาดของดีๆ  ซึ่งจะส่งผลต่อยอดขายคุณในอนาคตได้

     MOVEMENT: สินค้าต้องมีการเคลื่อนไหว ต้องใหม่อยู่เสมอ

      ผมเตือนคุณแล้วน่ะครับ  อย่าปล่อยให้สินค้าของคุณล้าสมัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดๆ ก็ตามเช่น บรรจุภัณฑ์  ส่วนประกอบของสินค้าเป็นต้น  และต้องมีการ Up Date ให้ใหม่ ทันสมัยอยู่เสมอ ไม่มีใครที่ไหนจะแชร์ข้อมูล ในโลกสังคมออนไลน์ ด้วยสินค้า ที่น่าเบื่อปราศจากความตื่นเต้นหรอครับผม

     UNIQUENESS: ความ Limited ของสินค้าที่กระตุ้นความอยากได้ของผู้บริโภค

      สินค้ารุ่นนี้ทำมาเพียงรุ่นเดียวเท่านั้น   คือเป็นสินค้าที่เป็น  Limited  Edition จริงๆ อาจจะออกแบบสินค้าที่ใช้ในเทศกาลสำคัญต่างๆ ก็ได้  แต่ต้องเป็น Limited จริงๆ น่ะแบบว่าในอนาคตจะไม่ผลิตออกมาแล้วแบบนี้เป็นต้น  เป็นการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ที่ได้ผลมาก และมีคุณค่าในสายตาของลูกค้าได้เลย

     MONITOR: ต้องติดตามข้อมูลทั้งหมด เช่น เนื้อหาที่ต้องการสื่อสารถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ มีเสียงตอบรับที่ดีหรือไม่ดีอย่างไร และเราสามารถจัดการส่วนนั้นได้อย่างไร

      นี่เป็นขั้นตอนการตลาดยุคใหม่ 4.0 ที่ธุรกิจจะพลาดมาก และไม่ค่อยคิดจะทำการติดตามผล ติดตามข้อมูล  การติดตามผลจะได้มีข้อมูลนำมาพัฒนาการตลาด และผลิตภัณฑ์ต่อไปในอนาคต  การติดตาม ตรวจสอบข้อมูล โดยเน้นข้อมูลตอบรับจากผู้บริโภค การติดตามข้อมูล และประเมินการตอบรับคุณจะได้รับข้อมูลอันมีคุณค่าที่สุด ที่คุณไม่ได้จากที่ไหน ฉะนั้นอย่าลืมติดตามผลเด็ดขาดเลยครับ


     เป็นอย่างไรบ้างครับ ลองนำไปปรับใช้ดูน่ะครับ เพราะหากคุณไปลองนำไปปรับใช้ ผมว่ามันจะไม่ได้ผลอีกแล้วกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงใหม่ ผู้ประกอบการที่ชัดเจน จริงใจ และรวดเร็วจะเป็นผู้สำเร็จ ในการตลาดยุค 4.0 นี้


ไม่มีความคิดเห็น