Header Ads

ความมหัศจรรย์ ของกลยุทธ์การตลาดแบบบอกต่อ

     คุณเคยไหมหากคุณได้ใช้สินค้าดีๆ มีคุณภาพแล้ว เกิดคันปากอยากบอกต่อ อยากพูดต่อ อยากให้คนอื่นได้ลองใช้แบบเราบ้าง แน่นอนครับทุกคนคงเคยมีอาการเช่นนี้  ฉะนั้นผมจะบอกให้คุณรู้ว่า คุณได้เข้าสู่ " การตลาดแบบบอกต่อ " เข้าให้แล้ว

     การตลาดแบบบอกต่อ เป็นการตลาดที่เกิดขึ้นมานานมากๆ คู่กับมนุษย์มานาน และที่ดีทีสุดคือ เป็นกลยุทธ์การตลาดที่ใช้ได้ผลที่สุดทุกยุค ทุกสมัย และมนุษย์เราก็ประหลาดมักจะเชื่อข้อมูลจากผู้ที่เรารู้จัก และสนิทสนมด้วย หรือที่เรียกว่าแหล่งข้อมูลอ้างอิงนั่นเอง  บริษัทใด สินค้าใด สามารถทำให้ผู้คนเกิดอาการคันปาก อยากบอกต่อ พูดต่อมากที่สุด ก็ถือว่าประสบความสำเร็จไปเกือบ 80% แล้วครับ


         กลยุทธ์การตลาดแบบบอกต่อนั้น สามารถที่จะรักษาลูกค้าเก่า ลูกค้าเดิม ไปพร้อมๆ กับการสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ได้พร้อมๆ กัน ลูกค้าที่มีการบอกต่อ ส่วนมากจะเกิดความภักดีต่อสินค้า และตราสินค้า จะมีการบอกต่อให้คนที่รู้จัก ได้ลอง ได้ใช้สินค้า และผู้ที่ได้รับข้อมูลจากผู้บอกต่อ ก็จะลองใช้สินค้า หรือบริโภคสินค้าจากการบอกต่อนั้นด้วยความเต็มใจเสียด้วยสิ

        อาการเช่นนี้เป็นอาการง่ายๆ ที่เรียกว่า อาการ " WOW " ที่เกิดขึ้นภายในจิตใจ ยิ่งในยุคปัจจุบันนี้ มีสื่อ Social Network เข้ามามากมายไม่ว่าจะเป็น Facebook Twitter ฯลฯ เข้ามาย่อโลกให้แคบลง และเป็นพลังที่ทำให้การตลาดแบบบอกต่อ ทวีพลังให้มากขึ้นกว่าเดิมมาก  สื่อ Social Network เข้ามาช่วยให้การตลาดแบบบอกต่อ จากแบบเดิมก่อนๆนั้น การบอกปากต่อปาก จะบอกต่อได้เพียงครั้งละคน แต่เมื่อมีสื่อเหล่านี้เข้ามาทำให้ การกดปุ่มแชร์เพียงครั้งเดียวทำให้คนเป็นพัน เป็นหมื่นเป็นแสน ได้เห็นข้อมูลเหล่านี้   คุณลองคิดดูสิครับหากคุณใช้ การตลาดแบบบอกต่ออย่างถูกต้อง จะบังเกิดผล บังเกิดพลังมหาศาลแค่ไหนเกิดขึ้นกับสินค้าของคุณ  และเป็นที่น่าเสียดายที่ธุรกิจทั่วไป เห็นถึงความสำคัญของการตลาดแบบนี้น้อยลง เน้นการใช้สื่อออนไลน์มากขึ้น โดยไม่รู้ว่าต้องทำกลยุทธ์เพื่อให้เกิดการบอกต่อในสื่อเหล่านี้  ขอเพียงให้ลูกค้า หรือผู้เสพสื่อทราบว่า มีสินค้านี้ในท้องตลาดก็พอ  ถือว่าล้มเหลวด้านความคิด และกลยุทธ์มาก

       ก่อนจะเผยกลยุทธ์ การบอกแบบปากต่อปาก ผ่านสื่อต่างๆ ผมมีข้อมูลจะแจ้งให้คุณทราบว่า จากการวิจัยทั่วโลก พบว่าเมื่อคนเราจะตัดสินใจซื้อสินค้า หรือบริการ สิ่งที่น่าเชื่อถือในใจของลูกค้า เป็นลำดับต้นๆเลยก็คือ  1. เชื่อคนที่ลูกค้าขอคำปรึกษา  2.เชื่อ ข้อความที่เป็น Word of Mouth จากสื่อโซเชียลมีเดีย เพราะข้อความเหล่านี้เกิดจากการเขียนด้วยความสมัครใจ และไม่มีผลประโยชน์ใดกับสินค้านั้น   ฉะนั้นคุณจะต้องสร้างธุรกิจ หรือสินค้าที่เกิด อาการ " WOW " จากการบอกต่อให้เกิดขึ้นในทันที

     กลยุทธ์เหล่านี้ ผมยกมาจากบทความของ ดร.เสรี วงษ์มณฑา กูรูด้านการตลาดของประเทศ ซึ่งผมเห็นว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกๆ คน โดยท่านได้ให้เคล็ดลับ เพื่อทำให้เกิดอาการ " WOW " ให้เกิดขึ้นจากการบอกต่อดังนี้

     1. Extra Attention  การใส่ใจในรายละเอียด และรสนิยมของลูกค้าในสินค้า บริการนั้นๆ นั่นเอง
     2. Advertising  การสร้างโฆษณาให้โดนใจ ตรงใจลูกค้า ให้มากที่สุด
     3. Design  การออกแบบสินค้าให้ดึงดูดใจลูกค้า ตอบสนอง Life Style ของลูกค้าให้มากที่สุด
     4. Performance สินค้าทำงานได้เกินความคาดหมายของลูกค้า
     5. Services บริการที่เหนือกว่าการบริการ มากกว่าความประทับใจ
     6. Image สร้างภาพลักษณ์ของสินค้า ให้เป็นสินค้าที่มีภาพลักษณ์ที่ดีในใจลูกค้า
     7. Efficiency ระยะเวลาที่รวดเร็วไม่ให้ลูกค้าต้องรอนาน เกินความจำเป็น ใส่ใจเยอะหน่อยครับข้อนี้
     8. Reliability รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับลูกค้าอย่างเคร่งครัด
     9. Ubiquitous Presence สินค้าต้องทำให้ผู้ใช้จำนวนมาก สามารถเห็นได้ง่าย เห็นได้บ่อย ติดตา
    10. High Quality สินค้ามีคุณภาพสูง
    11. Value for money คุ้มค่าเกินราคา
    12. Turn Contacts Point to Wow Point ช่องทางการสื่อสาร และประชาสัมพันธ์ต่างๆ ที่ลูกค้า
          สามารถมองเห็นสินค้า และบริการ ของบริษัท

     การตลาดแบบปากต่อปาก จะต้องเน้นให้สุดๆ ทุกช่องทาง ทุกปัจจัย ที่กล่าวมาเพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด ประทับใจสูงสุด จดคนทั่วๆ ไป กลุ่มเป้าหมายอดใจไม่ไหวที่จะบอกต่อ


ธวัชชัย สุวรรณสาร
Marketing Mentor



ไม่มีความคิดเห็น