การตลาดเพื่อสังคมที่มุ่งช่วยเหลือกลุ่มคนรายได้น้อย
การตลาดในปัจจุบันเป็นยุคที่ต้องมีการแข่งขันกันสูงมาก ต่างก็แย่งชิงกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มเพื่อที่จะให้องค์กรสามารถขายสินค้าและบริการได้มากขึ้น และเพื่อผลประกอบการที่มากขึ้น โดยกลุ่มลูกค้าปัจจุบันสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ตามรายได้ คือ กลุ่มที่มีรายได้น้อย กลุ่มที่ม่ีรายได้ปานกลาง และกลุ่มที่มีรายได้สูง โดยกลุ่มที่มีรายได้น้อยนั้นเป็นกลุ่มที่มีจำนวนมากที่สุด รองลงมาคือ กลุ่มที่มีรายได้ปานกลาง และน้อยที่สุดคือกลุ่มที่มีรายได้สูง
แต่ที่แปลกก็คือ ธุรกิจส่วนมากกลับเน้นทำการตลาดกับหลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ปานกลาง ด้วยเหตุผลน้อยมากคือ กลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ปานกลางถึงสูงนั้น มีกำลังซื้อทีมีเปอร์เซ็นต์ที่สูง เมื่อเทียบกับกลุ่มรายได้น้อย ซึ่งหากเป็นแนวคิดการตลาดสมัยใหม่แล้ว นักการตลาดที่มีแนวความคิดทำการตลาดที่เน้นกลุ่มที่มีรายได้ปานกลางถึงสูง ดูจะตกยุคไปเสียแล้ว
เนื่องจากการตลาดในปัจจุบันเป็นการตลาดที่ทุกๆ คนมีโอกาสได้ใช้สินค้า และยิ่งในปัจจุบันอินเตอร์เน็ตมีบทบาทอย่างมากในปัจจุบันเข้าถึงทุกบ้านเรือน จนถือว่าอินเตอร์เน็ตเป็นปัจจัยที่ขาดไม่ได้เสียแล้วในปัจจุบัน ยิ่งกลุ่มที่มีรายได้น้อยมีอัตราการใช้อินเตอร์เน็ตที่ค่อนข้างสูงไม่แพ้กลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ระดับกลางถึงสูง
" แล้วทำไม เราถึงไม่ทำการตลาดที่ช่วยเหลือกลุ่มที่มีรายได้น้อย ให้มีโอกาสที่ดีในสังคม ให้มีโอกาสยกระดับรายได้ขึ้น และให้มีสภาพชีวิตที่ดีขึ้น "
ซึ่งองค์กรธุรกิจอาจจะมีการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และที่ขาดโอกาส โดยให้กลุ่มนี้ได้มีส่วนร่วมในการผลิตและการทำการตลาดขององค์กร ในประเทศของเราที่เห็นได้ชัดเจน ก็เห็นจะมีบริษัท ที่ประกอบธุรกิจด้านอาหารบริษัทหนึ่ง ได้มีการทำฟาร์มเลี้ยงหมู เลี้ยงวัว ภายในชุมชน โดยจัดตั้งเป็นหมู่บ้านการเกษตร มีฟาร์มหมู ฟาร์มวัว โดยองค์กรมีการฝึกอบรมประชาชนในหมู่บ้าน ให้มีการทำฟาร์ม สอนระบบต่างๆ ฝึกให้เขาเป็นผู้ประกอบการรายย่อย โดยเมื่อทำการเลี้ยงหมู และวัวจนได้ขนาดแล้ว บริษัทแห่งนี้จะทำการซื้อจากคนเหล่านี้ ทำให้เกิดเป็นธุรกิจในครัวเรือน ต่อเนื่องกันไปหลายชัวอายุคน ทำให้บริษัทผลิตอาหารแห่งนี้ได้สินค้าเพื่อกระจายออกสู่ตลาด ส่วนประชาชนในหมู่บ้านก็ลืมตาอ้าปากได้ มีรายได้อย่างต่อเนื่องสืบเนื่องกันไปในตระกูลของตน
นี่เป็นการตลาดเพื่อสังคม เพื่อช่วยเหลือ และยกระดับกลุ่มคนที่มีรายได้น้อยให้มีโอกาสในสังคม เพื่อให้เขาเกิดการยอมรับมากขึ้น ทำให้องค์กรธุรกิจเกิดภาพพจน์ที่ดี ส่งผลให้สินค้าเกิดการยอมรับในมุมกว้าง และเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก ถือว่าเป็นตลาดแห่งการให้ที่เอื้อประโยชน์ต่อทั้งกลุ่มคนที่มีรายได้น้อย และเอื้อต่อองค์กรธุรกิจ
โดยการตลาดวิธีนี้ควรประกอบด้วยข้อกำหนด 4 ข้อด้วยกันคือ
1. การส่งเสริม และกิจกรรมทางธุรกิจต้องใหญ่พอที่จะเข้าถึงกลุ่มคน หรือประชาชนที่มีอยู่เป็นจำนวนมากได้ เพื่อให้เกิดการสร้างงานมวลรวมที่มากพอ
2. ต้องสามารถแก้ไขปัญหาได้ในระยะยาว และอยู่หลายชั่วอายุคน ไม่ควรสิ้นสุดเพียง Generation เดียว
3. จะต้องใช้ได้ผลจริงๆ และนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงมาให้อย่างยั่งยืน ไม่ควรแอบแฝงด้วยผลประโยชน์
4. การดำเนินการทุกๆอย่างต้องดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ
5. กลุ่มคนเหล่านี้ต้องมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในการดำเนินการ มีสิทธิเสนอแนวคิดต่างๆ ในการพัฒนางาน
การตลาดในยุคใหม่ควรเน้นกลุ่มเป้าหมายรายได้น้อย และด้อยโอกาสให้มากขึ้น สร้างเขาเพื่อเป็นผู้ประกอบการรายย่อย ให้มีสภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตราบชั่วลูกชั่วหลาน เมื่อองค์กรทำได้เช่นนี้การตลาดเพื่อสร้างภาพพจน์ต่อสายตาชาวโลกขององค์กร ก็จะคงอยู่ตลอดไปเช่นกัน หยุดได้แล้วกับการทำการตลาดกับผู้ที่มีโอกาส กลุ่มผู้มีรายได้น้อย และด้อยโอกาสอีกมากมายที่รอการทำการตลาดจากคุณอยู่
ธวัชชัย สุวรรณสาร
ผู้ฝึกสอนด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์
081-1689081
coachtawatchai@gmail.com
Post a Comment