น่าเศร้า กลยุทธ์การขายสินค้าราคาถูก อาจจะใช้ไม่ได้ผลในอนาคต
การตลาดในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ อันเนื่องมาจากการแข่งขันที่มากขึ้น สังคมมีการแตกแขนงมากขึ้น มีกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้นตลอดเวลา จึงทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคที่ผันแปรไปตามกระแสความเปลี่ยนแปลงในโลกปัจจุบัน หากองค์กรหรือธุรกิจไม่สามารถคาดการณ์ หรือรับรู้ความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป องค์กรธุรกิจนั้นๆ อาจถึงกับล้มหายตายจากไปจากตลาดอย่างไม่มีวันกลับอีกเลย
ดังนั้นคุณสามารถเห็นได้ว่า จะมีกลยุทธ์จากธุรกิจที่เหนือชั้นออกมามากมายหลายกลยุทธ์ ซึ่งจะเป็นกลยุทธ์ที่คุณอาจจะคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์ของแผนกการตลาดของบริษัทหรือองค์กรนั้นๆ ในการออกกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อให้โดนใจลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย และเป็นการแสดงว่าตนนั้นไม่ได้ล้าสมัยไปตามกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลงไป
จึงทำให้กลยุทธ์ " ขายสินค้าราคาถูก " ที่เคยใช้ได้ผลมาตลอด จนนักการตลาดเรียกกลยุทธ์การขายสินค้าราคาถูกว่า เป็น " กลยุทธ์อมตะ " ที่ได้ผลที่สุด แต่ในปัจจุบันควรจะต้องเปลี่ยนแนวความคิดใหม่ได้แล้วเพราะกลยุทธ์นี้อาจจะใช้ไม่ได้ผล จนความอมตะของกลยุทธ์ดังกล่าวใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป
อย่างที่ผมได้บอกไว้ในบทความก่อนๆ ว่าลูกค้าจะซื้อสินค้าจากองค์กรธุรกิจได้ส่วนมากจะเป็นการซื้อด้วยอารมณ์มากกว่าเหตุผล ยิ่งเราสามารถตอบสนองอารมณ์ของกลุ่มเป้าหมายได้มากเท่าใดก็ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อองค์กรของคุณมากเท่านั้น และในปัจจุบันอารมณ์ที่เข้ามามีส่วนอย่างมากในการตัดสินใจของกลุ่มเป้าหมายทั่วโลกก็คือ " อารมณ์แห่งความเมตตา และความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ " ที่องค์กรของคุณมีต่อสังคมและสภาพแวดล้อมของโลก
กระแสการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมาแรงมากในการตลาดปัจจุบัน และคาดว่าจะมาแทนกลยุทธ์เน้นขายของถูก เนื่องมาจากสภาพแวดล้อมของโลก และสังคม ที่เปลี่ยนแปลงไปสภาพแวดล้อมถูกทำลาย สวัสดิการของมนุษย์ถูกเอารัดเอาเปรียบ อันเนื่องมาจากการแข่งขันกันทำมาหากินรุนแรงขึ้นทุกๆ วัน ดังนั้นหากองค์กรใดมีนโยบายการตลาดสินค้าที่เน้นในเรื่องของการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และมนุษยธรรมแล้วองค์กรนั้นสินค้านั้นจะเกิดการยอมรับในแบรนด์จากลูกค้า อันจะนำมาซึ่งผลกำไรในอนาคต
ดังนั้นผมจึงมีข้อแนะนำอยู่ด้วยกัน 2 ประการด้วยกันในการทำการตลาดที่ทุกๆ บริษัทควรจะมีไว้ในกลยุทธ์การตลาดของตน
1. กลยุทธ์ในความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อม
เมื่อจะวางแผน กำหนดกลยุทธ์ทางการตลาด แผนกการตลาดควรนำกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อมเข้ามามีส่วนในการกำหนดด้วย ไม่ใช่เฉพาะแผนการตลาดเพียงอย่างเดียว ควรจะมีกลยุทธ์ความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อมในผลิตภัณฑ์ด้วย เรามีตัวอย่างขององค์กรที่ใช้กลยุทธ์นี้อย่างได้ผล เช่น โตโยต้าที่ส่งรถยนต์รุ่น Prius ออกสู่ตลาดยานยนต์ วิศวกรของโตโยต้าปัจจุบันมุ่ง ออกแบบและผลิตรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จนเกิดเป็นรถยนต์รุ่นดังกล่าวออกมา ซึ่งรถยนต์รุ่นดังกล่าวไม่ใช่เป็นนโยบายหลักของโตโยต้าในการออกแบบรถออกสู่ตลาด แต่ทางทีมบริหารของโตโยต้า ก็ต้องยอมค้านกับการบริหารของตน เพื่อตอบสนองตลาดที่มุ่งเน้นสิ่งแวดล้อม
2. ดูแลพนักงานในองค์กรให้ได้รับสวัสดิการต่างๆ ให้ดีที่สุด
การตลาด และผลิตภัณฑ์ขององค์กรจะออกมาดีได้ พนักงานในองค์กรมีส่วนสำคัญมากในการตลาดยุคปัจจุบัน ดังนี้ผมได้บอกไปแล้วว่าปัจจุบันมีการตื่นตัวในเรื่องของหลักมนุษยธรรมสูงมาก หลายประเทศมีการเดินขบวนประท้วงในเรื่องของค่าแรง การถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายจ้าง ปัญหาความรุนแรงต่างๆ ทางสังคม การที่จะทำให้การตลาดองค์กรและผลิตภัณฑ์ดีได้ องค์กรควรมุ่งเน้นดูแล สวัสดิการของพนักงานให้ได้รับความเป็นธรรมตามกฎหมาย มีความชัดเจนในเรื่องแรงงาน รวมถึงสวัสดิการเพิ่มเติมอื่นๆ จงจำไว้ว่าพนักงานขององค์กรของคุณ เป็นการตลาดที่มีประสิทธิภาพ เพราะเกิดการบอกต่อ พนักงานเกิดความภาคภูมิใจในการทำงานกับบริษัท เกิดเป็นแรงผลักดันมหาศาลในการส่งเสริมการตลาดอย่างเต็มใจแบบอัตโนมัติ แล้วคุณล่ะครับดูแลพนักงานที่มีค่าทางการตลาดของคุณดีแล้วหรือยัง
ธวัชชัย สุวรรณสาร
โค้ชและที่ปรึกษาด้านการตลาดและการสร้างแบรนด์
081-1689081
coachtawatchai@gmail.com
Post a Comment