Header Ads

แบรนด์สมัยนี้ ต้องให้ความสำคัญในความเป็นมนุษย์ จึงจะสำเร็จ

     ในบทความที่แล้วผมได้บอกแล้วว่า  " การสร้างแบรนด์ในยุคใหม่ 4.0 นี้ต้องสร้างแบรนด์ที่แสดงถึงความเป็นมนุษย์มากที่สุด" หากคุณยังดื้อดึงที่จะปั้นแบรนด์ สร้างแบรนด์ ด้วยวิธีการเก่าๆ ที่ไร้ซึ่งจิตวิญญาณ  สร้างแบรนด์โดยคำนึงถึงแค่ว่าเป็น สิ่งที่สื่อระหว่างกิจการกับสินค้า แค่นั้นหล่ะก็....คุณเตรียมล้มเหลว ได้เลยในการตลาด ทีี่ผู้บริโภคเป็นใหญ่นี้


    ฉะนั้นผมอยากจะบอกว่า ก่อนสร้างแบรนด์คุณต้อง ปักธงไปเลยว่า คุณต้องให้แบรนด์ของคุณสื่อถึงชีวิต มีชีวิต มีจิตใจ เป็นสิ่งที่สื่อถึงกิจการ สินค้า และจิตวิญญาณของคุณ และเป็นแบรนด์ที่สื่อได้ว่า แบรนด์นั้นเป็นของผู้บริโภคอย่างแท้จริง   คือต้องดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคได้ นั่นคือต้อง WOW นั่นเองครับ

     แล้วจะทำอย่างไรล่ะ ที่จะกำหนดคุณลักษณะที่จะสื่อ ถึงความเป็นมนุษย์ แค่ฟังก็ดูน่าจะยากแล้ว คุณไม่ต้องห่วงครับ ผมจะสื่อให้เห็นอย่างง่ายๆ รับรองว่าหากคุณนำไปลองปรับใช้กับ การทำการตลาดของคุณแล้ว แบรนด์ของคุณจะมีชีวิตจิตใจ มีความเป็นมนุษย์มากขึ้นอย่างแน่นอน

     ผมขอ ยกเนื้อหาในหนังสือ Leaders without Titles ของสตีเฟน แซมป์สันที่บอกว่า ผู้นำขององค์กรที่มีโครงสร้างในแนบระนาบ หรือ องค์กรที่มีการจัดวางโครงสร้างการบริหารงาน แบ่งเป็นฝ่ายต่างๆ ที่ทำงานสัมพันธ์กัน  มีการตัดสินใจ การกระจายอำนาจ ให้ทำงานร่วมกัน โดยมีลำดับขั้นการบังคับบัญชาที่น้อยมาก ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว และเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสาร   โดยผู้นำในองค์กรเหล่านี้ ต้องมีคุณลักษณะสำคัญ 6 ประการ  ซึ่งมิติของความเป็นมนุษย์ มีพลังการโน้มน้าวใจแบบเพื่อน  ทำให้ผู้ผู้บริโภคไม่รู้สึกว่าถูกบังคับ  ถูกครอบงำ ถูกควบคุม   โดยคุณลักษณะสำคัญในความเป็นมนุษย์ 6 ประการมีดังนี้

     
      1. ลักษณะที่ดึงดูดใจ( Physically) 

          แบรนด์ที่มีลักษณะดึงดูดใจ คุณต้องจำไว้เลยครับว่า แบรนด์ที่ดึงดูดใจ ต้องมีลักษณะ รูปลักษณะ ที่แตกต่างโดดเด่น น่าประทับใจ  ถึงแม้ว่าสินค้า หรือบริการนั้นจะไม่ได้ เพอร์เฟค ก็ตาม ฉะนั้นในข้อนี้ผมอยากให้คุณเปลี่ยนความคิดค่า สินค้าธรรมดาจะไม่ดัง ไม่ดึงดูดใจ คุณสามารถทำสินค้าแสนธรรมดานั้นให้ ดึงดูดใจผู้บริโภคเท่าไหร่ก็ได้

          ผมขอยกตัวอย่าง Google น่ะครับ คุณสังเกตุได้ว่า หากช่วงเวลานั้นอยู่ในช่วงเวลาสำคัญๆ ก็จะมีการแทรกการ์ตูน หรือเปลี่ยน โลโก้ ให้ทันต่อเหตุการณ์  เพื่อฉลองวาระพิเศษนี้ โดยการเปลี่ยนดังกล่าว ไม่ได้มีการเพิ่มต้นทุนแต่ประการใด นี่เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ในการสร้างรูปลักษณ์ดึงดูดใจ โดยเสียต้นทุนน้อยมาก หรือแทบจะไม่เสียเลย


      2. มีความพร้อมด้วยสติปัญา ( Intellectuality )

         คือความสามารถของมนุษย์ ในการจินตนาการ  หาความรู้เพิ่ม คิดริเริ่ม ในการสร้างสิ่งใหมๆเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ๆ ที่คู่แข่งขันไม่เคยคิดมาก่อน ทั้งนี้เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคอย่างแท้จริง

         ยกตัวอย่างเช่น Taxi Uber  ใช้สติปัญญาในการเชื่อมโยงผู้บริโภคเข้าไว้ เพื่อเป็นการผลักดัน และผลิตระบบเศรษฐกิจมวลรวมเพื่อการแบ่งปัน จนก่อเกิดแบรนด์แห่งปัญญาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค


     3. ต้องเข้ากับผู้อื่นได้ ( Sociability )

        ใครที่เข้ากับผู้อื่นได้  มีความมั่นใจในตนเองในการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น มีทักษะที่ดีในการสื่อสารทั้งแบบใช้คำพูด  และไม่ใช้คำพูดเลย   แบรนด์ลักษณะนี้จะไม่มีความกลัวการพูดคุยกับลูกค้าเลย

        การสร้างแบรนด์ ที่ต้องเข้ากับผู้อื่นได้ คุณต้องตอบคำถาม แก้ไข รับฟังความคิดเห็นของลูกค้า และต้องติดอย่างรวดเร็วไม่ควรให้ผู้บริโภครอนาน เพราะจะทำให้รอดจากโอกาสของบริษัทเอง ในที่นี้ผมขอแนะนำเครื่องมือที่สร้างความเข้ากันได้กับผู้บริโภคมากที่สุด ก็คือ สื่อ ทางช่องทางอินเตอร์ เช่น โซเชียลเน็ทเวิร์ค ครับ


     4. ต้องเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น ( Emotionality ) 

         แบรนด์ที่เข้าใจความรู้สึกของผู้บริโภค จะสามารถโน้มน้าว และผลักดันให้ผู้บริโภคทำในสิ่งที่ตนต้องการ  เช่นการแบ่งปันเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์  การสร้างกิจกรรมเพื่อสร้างความรู้สึกผูกพัน ยิ่งทำกิจกรรม ยิ่งสนุกก็ยิงประสบความสำเร็จ

         ที่จริงๆ ก็คือ " คุณต้องรู้ถึงคุณค่าของสินค้า และบริการของคุณเอง "  เพื่อคุณจะได้รู้ว่าควรเน้นอะไร ที่จะตรงตามความต้องการของลูกค้า

         ในข้อนี้ผมขอแนะนำว่า ในทำเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์กับผู้บริโภคในเชิงความเป็นห่วงเป็นใย

         ถือหลัก " ใจเขาใจเรา "  หากคุณต้องการให้คนอื่นทำอะไรให้คุณ ที่ทำให้รู้สึกสบายใจ นั่นแหละครับผู้บริโภคก็ต้องการแบบเดียวกัน กับที่คุณต้องการนั่นเอง "


      5. รู้จักตนเอง  ( Personability )

         รู้ว่าแบรนด์ต้องทำอะไรได้ดี เด่นด้านไหน ต้องยอมรับว่าคุณเองก็ต้องมีการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา บุคลิกภาพของแบรนด์ เป็นแบบไหน และจักต้องมีการพัฒนาอยู่เสมอ  แบรนด์ของตนมีข้อผิดพลาดตรงไหนกัน แล้วแก้ไขซ่ะให้ถูกต้อง

        องค์กรที่สร้างแบรนด์ กล้าที่จะรับผิดชอบในความบกพร่อง ที่เกิดขึ้น จะทำให้แบรนด์นั้นมีความเป็นมนุษย์ และมีมิติความเป็นมนุษย์มากขึ้น ฉะนั้นหากมีข้อผิดพลาด ก็แก้ไขไปเลยครับไม่ต้องอาย ทำการแก้ไขให้ถึงที่สุดไปเลย


      6. มีคุณธรรม ( Morality )

          การมีความซื่อสัตว์ มีจรรยาบรรณของแบรนด์ ต้องมีการขับเคลื่อนด้วยค่านิยมขององค์กรที่ถูกต้อง  ในบางแบรนด์นั้นได้มีการนำเอาการทำธุรกิจอย่างซื่อสัตว์ และมีจรรยาบรรณของตน มาผูกเข้ากัน มาเป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ มีการรักษาสัญญากับลูกค้า  จนเป็นที่ไว้วางใจของลูกค้า ฉะนั้นในข้อนี้ " อย่าผิดคำพูด " ที่สัญญากับลูกค้าเด็ดขาด


      และนี่คือ คุณลักษณะ 6 ประการเพื่อสร้างมิติความเป็นมนุษย์ให้เกิดขึ้นกับแบรนด์ของคุณ ลองนำไปปรับใช้ดู แบรนด์ของคุณจะไม่เป็นแค่ก้อนหินอีกต่อไป  แต่จะเป็นสิ่งที่มีค่า แสดงถึงความเป็นมนุษย์ที่สามารถสื่อความต้องการลึกๆ ให้เรารับทราบได้ต่อไปในอนาคต

ไม่มีความคิดเห็น