งบน้อย เงินน้อย ต้องทำการตลาดยุคนี้อย่างไรดี

      แน่นอนครับ  ว่าการตลาดต้องมีงบประมาณ ต้องมีค่าใช้จ่าย คุณน่าจะเคยเห็นงบประมาณทางการตลาดที่บริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายใช้ อาจจะหลายล้าน  หลายร้อยล้าน จ้างพรีเซ็นเตอร์ เป็นดารา นักร้อง ค่าตัวแพงๆ มากมาย โดยที่กิจการขนาดเล็ก หรือผู้ประกอบการรายย่อยทั้งหลาย ได้แต่มองตาปริบๆ

      แต่ขอแสดงความยินดีด้วยครับ  ยุคการตลาดสมัยใหม่หรือที่เรียกกันอย่างติดปากว่า การตลาด 4.0 นั้น ไม่จำเป็นว่าบริษัทยักษ์ใหญ่จะเป็นบริษัทเดียวที่ผูกขาดตลาด โดยใช้งบประมาณการตลาดอย่างมหาศาลเท่านั้น   ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถที่จะเป็นที่ 1  หรือสามารถแซงธุรกิจขนาดใหญ่ได้ ด้วยงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด แถมยังจะมีเทคโนโลยี อินเตอร์เน็ต ที่จะช่วยให้งบทางการตลาดที่ใช้ ประหยัดไปได้อีกมากโข

    เพียงแต่คุณต้องรู้หลักในการทำการตลาด ให้ถูกต้องตามงบประมาณที่น้อย และมีอยู่อย่างจำกัดนั้นให้เกิดผลประโยชน์มากที่สุด เกิดประสิทธิภาพสูงสุด หากคุณไม่วางแผนรับรองว่า งบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัดของคุณนั้น จะไม่เกิดประโยชน์อย่างไรเลย ทางการตลาดกับธุรกิจของคุณ วันนี้ผมมีหลัก ที่จะช่วยทำการตลาดให้คุณให้มีประสิทธิภาพ ด้วยงบประมาณที่น้อยมาก ไม่แพ้ ธุรกิจขนาดใหญ่เลย เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ

    1. คุณต้องทราบลูกค้าเป้าหมายของคุณก่อนเสมอทุกครั้งที่ทำการตลาด

         ลูกค้าเป้าหมายของคุณคือใคร? ตอบให้ได้ก่อน ไม่ใช่หว่านแหไปทั่วว่าทุกๆคน คนเดินถนนทุกคนคือลูกค้าเป้าหมายของคุณ หาให้เจอครับว่าเป็นลูกค้ากลุ่มใด ประเภทไหน และทุ่มงบประมาณทางการตลาดที่มีอยู่อย่างจำกัดนั้นไปที่ลูกค้าเป้าหมายนั้น  ยิ่งลูกค้าเป้าหมายมีความเจาะจงมากเท่าใด หรือที่เรียกกันว่า ลูกค้ากลุ่ม Niche Market คุณยิ่งประสบความสำเร็จมากขึ้นเท่านั้นครับ จำไว้

   2. ในเมื่องบประมาณการตลาด คุณมีจำกัด ก็ให้เน้นในเรื่องคุณภาพของสินค้าไปเลย

       ทุกๆคน ทุกๆ กิจการขนาดย่อม ที่ไม่ใช่ธุรกิจขนาดใหญ่มักจะลืมกันว่า สิ่งที่สามารถเป็นกระบอกเสียง และทำการตลาดได้ดีที่สุด โดยไม่ต้องใช้งบประมาณทางการตลาดแพงๆ ก็คือ ให้เน้นพัฒนาคุณภาพของสินค้าและบริการให้ดีที่สุด โดยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเป้าหมายได้ลองใช้สินค้า หรือได้เห็นสินค้าโดย ทีสำคัญที่สุดก็คือ ให้สินค้าของคุณได้มองเห็นหลายๆ ช่องทางหน่อยครับ โดยใช้สื่อดิจิตอลอินเตอร์เน็ต ให้เป็นประโยชน์ เช่น สื่อสังคมออนไลน์   เวปไซท์ของคุณ  เวปซื้อขายของออนไลน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Lazada, Tarad เป็นต้น  พยายามคิดๆ หลายช่องทางเพื่อให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มองเห็นสินค้าของคุณได้มากที่สุด  และอย่าลืมน่ะครับ หากลงสื่อเหล่านี้ แสดงให้เห็นไปเลยว่าสินค้าของคุณดีอย่างไร

   3. ใช้สื่อสังคมออนไลน์ให้เป็นไม่ใช่ใช้ไปทั่ว โดยเอาปริมาณเข้าว่า

      ใช้สื่อสังคมออนไลน์ไม่ว่าจะเป็น Facebook   Line@    IG    Youtube  และอื่นๆ อีกมากมาย โดยผู้ประกอบการ หรือนักการตลาดที่ไม่รู้จริงในการทำการตลาดผ่านช่องทางเหล่านี้   หวานแห ใช้ทุกช่องทางเลยทีเดียว  โดยลืมคิดไปว่า สินค้า และบริการของเขา อาจจะไม่เหมาะสมกับทุกๆ ช่องทาง ผมแนะนำให้ทดลองในแต่ล่ะช่องทาง แล้วหาช่องทางที่เหมาะสม และทุ่มให้กับช่องทางนั้น ทั้งนี้เพราะว่าอัตราการมีส่วนร่วมของลูกค้าไม่เท่ากัน   หาเฉพาะที่เหมาะสมกับสินค้าของคุณก็พอ หากมีเยอะ จะดูแลไม่ทั่วถึง เดี๋ยวได้จ้างคนมาดูสื่อเพิ่มอีก งบยิ่งจำกัดอยู่ เดี๋ยวจะเป็นการใช้งบประมาณเกินอีก จะหาว่าไม่เตือนน่ะครับ

    4. จับกระแสในปัจจุบัน ว่าเหตุการณ์ใดเป็นกระแส ก็เสนอการตลาดให้สินค้าของคุณสอดคล้องกับกระแสเหล่านั้น

        เพราะอะไรน่ะหรือครับ  ก็เพราะ " กระแส " ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์สำคัญๆ อะไรก็ตามไม่ว่าจะเกิดขึ้นในประเทศ หรือต่างประเทศ ก็สามารถจับมาทำกระแส โดยใช้สินค้า และบริการของเราให้สอดคล้องกับกระแสนั้น  ยกตัวอย่างเช่น กระแสฟุตบอลโลก คุณก็อาจจะออกแบบสินค้า หรือบริการ หรือจัดกิจกรรมทางการตลาดให้สอดคล้องกับกระแส ออกแบบสินค้า  บรรรจุภัณฑ์ ให้เป็นลายฟุตบอล หรือออกแบบนี้ค้าที่เป็น limited Edition ออกมาเพื่อสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ได้เลย เป็นต้น

   5. บรรจุภัณฑ์ หรือ Packaging อย่าล่ะเลยทำให้เด่นไปเลย

       จัดการออกแบบ บรรจุภัณฑ์ให้โดดเด่นสอดคล้องกับกลุ่มลูกค้าของคุณ เพราะการตลาด แพ็กเกจ เป็นการทำการตลาดที่เหมาะสม และโดนกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายที่สุด การออกแบบ Packaging ดีๆ โดดเด่นจะสามารถจูงใจให้ลูกค้าได้ และช่วยประหยัดงบประมาณทางการตลาดไปได้มากโขอยู่ จำไว้น่ะครับ ออกแบบให้ตรงกลุ่มเป้าหมายที่คุณระบุไว้ สอดคล้องกับนิสัยของเขา จริตของเขาเมื่อนั้น สินค้าของคุณจะเกิดแรงดึงดูด ชักจูงคนให้มาซื้อสินค้า และบริการจากคุณ

   6. จับหากพันธมิตรมาร่วมกันผลิตสินค้า และบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค

       หากคุณยังคงคิดการตลาดแบบเห็นแก่ตัวอยู่  และคิดว่าหากมีการส่งลูกค้าของตนให้คู่แข่ง คู่แข่งจะได้ดี สู่เราทำเองดีกว่า หากคุณคิดแบบนี้ในการตลาดยุคปัจจุบัน ธุรกิจของคุณอยุ่ไม่รอดแน่นอนที่สุด

       การตลาดยุคปัจจุบันเป็นการตลาดที่ร่วมมือกันในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้าน อรรถประโยชน์ และจิตวิญญาณ  โดยอาจจะมีการออกแบบสินค้าร่วมกัน ยกตัวอย่างเมื่อก่อนจะมี สินค้ามันฝรั่งทอดเลย์ ทีมีการนำรสชาติของไก่ทอด KFC อันแสนอร่อย มารวมเป็นรสชาดของมั่นฝรั่ง เป็นมันฝรั่งทอดเลย์ รสไก่ทอด KFC เป็นต้น การทำเช่นนี้จะส่งผลทางการตลาดระหว่างกัน เป็นการใช้กลยุทธ์การตลาด Engagement หรือการตลาดแบบมีส่วนร่วม  แถมยังช่วยในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้ักทั้งคู่ โดยใช้งบประมาณไม่มาก

      เอาหล่ะครับ นี่คือวิธีการ กลยุทธ์ทางการตลาดที่ใช้งบประมาณน้อย แต่ผลทางการตลาดไม่แพ้บริษัทใหญ่ๆ เลยทีเดียวลองไปปรับใช้กันดูน่ะครับ