อย่าลืมกฎทอง ในการทำการตลาดนี้ หากคุณอยากขายดี ขายดัง
ธุรกิจไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาด เล็ก กลาง หรือขนาดใหญ่ ในปัจจุบันมีการทำการตลาดหลากหลายช่องทางมาก ที่สำคัญๆ ในปัจจุบันและใช้สื่อนี้ทำการตลาดอย่างแพร่หลาย ก็คือ สื่ออินเตอร์เน็ต Social Network แต่ไม่ว่าจะใช้สื่ออะไรก็ตาม ผมต้องการให้คุณอย่าลืมกฎทองในการทำการตลาดนี้
กฎทองนี้สามารถใช้กับการทำการตลาดได้ทุกยุค ทุกสมัย ทุกช่องทางในการทำการตลาด หากคุณมีธุรกิจอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเล็ก กลางหรือใหญ่ ขอให้คุณกลับไม่ดูการทำการตลาดของคุณว่าสอดคล้องกับกฎทองที่ผมกำลังจะบอกนี้หรือไม่ หากขัดกับกฎทองทางการตลาดที่ผมบอก ขอให้ไปปรับโดยด่วน และผมกำลังจะบอกว่า หากธุรกิจของคุณกำลังประสบปัญหาขายไม่ดี ขายไม่เด่น ขายไม่ปัง นั่นแหละคุณกำลังทำขัดกับกฎทองทางการตลาดนี้
เอาล่ะครับเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
กฎทองของการทำการตลาด ( Golden Rule of Marketing ) ประกอบด้วย 2 หัวข้อหลักด้วยกัน
1. หากคุณจะทำการตลาดคุณต้องเจาะตลาด โดยพุ่งเป้าไปที่ลูกค้า
การทำการตลาดปัจจุบันแตกต่างจากการทำตลาดสมัยก่อนที่เน้นในตัวของสินค้า เน้นความยอดเยี่ยมของสินค้า ทำสินค้าด้วยความต้องการของผู้ผลิต ไม่ได้มีการเน้นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าเท่าใดนัก มีแนวคิดเพียงว่า " หากฉันผลิตสินค้าดี สินค้าเด่น ก็จะขายได้ทุกครั้ง " ซึ่งหากคุณนำแนวคิดที่เก่าคร่ำครึ นี้มาทำการตลาดในปัจจุบัน คุณจบแน่นอนครับ
ปรับความคิดการทำการตลาดปัจจุบันใหม่น่ะครับ ต่อไปนี้ให้คุณเน้นการทำการตลาด โดยเน้นที่ความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก สอบถามความคิดเห็นความต้องการของลูกค้าให้มากๆ ยิ่งได้ข้อมูลจากกลุ่มเป้าหมายมากเพียงใด คุณก็จะประสบความสำเร็จมากเท่านั้น เมื่อได้ข้อมูลจากลูกค้า กลุ่มเป้าหมายมาแล้วคุณค่อยทำสินค้าเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้า แค่นี้เองครับ
2. ความสำเร็จในการทำการตลาดของคุณขึ้นอยู่กับว่าคุณสามารถช่วยเหลือลูกค้าให้มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้อย่างไร
ง่ายๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจ สินค้า และบริการของคุณช่วยทำให้ลูกค้าของคุณประสบความสำเร็จ สะดวกสะบายขึ้น มีชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างไร ยกตัวอย่างเช่น คุณขายตู้เย็น เป็นตู้เย็นที่มีถึง 3 ประตูแบ่งอย่างชัดเจนระหว่างช่องแช่แข็ง ช่องแช่ผัก และช่องแช่ทั่วไป อย่างชัดเจน ง่ายว่าตู้เย็นประตูเดียวตรงที่ว่า ไม่ต้องเปิดประตูใหญ่ประตูแรก แล้วค่อยเอื่อมลงไปถึงถาดเก็บผัก สามารถเปิดประตูเพื่อหยิบผักได้เลยเป็นต้น ซึ่งสามารถสร้างความสะดวกสะบายใหักับลูกค้าในการประกอบชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี
หรือหากคุณขายอาหารตามสั่งทั่วไป ก็สามารถใช้กฎนี้ได้ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าสั่งผัดกระเพราะ แต่เขาไม่ชอบเผ็ดเลย คุณก็อาจจะเขียนป้ายบอกไว้ว่า " หากไม่ชอบเผ็ดสามารถบอกได้ค่ะ " เมื่อคุณรับออเดอร์คุณก็สามารถทำผัดกระเพราะให้ตรงกับลูกค้าที่ไม่ชอบเผ็ดได้ ลูกค้าก็กินได้ง่าย ไม่ต้องทรมานกับความเผ็ดของพริกเป็นต้น
ฉะนั้นคุณต้องตั้งคำถามในใจในฐานะลูกค้าของคุณเลยว่า สินค้าของคุณสามารถทำให้ลูกค้ามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ง่ายขึ้น และสะดวกขึ้นมากน้อยแค่ไหน List มาเป็นข้อๆ เลย หากคุณจดได้มาก สินค้าคุณทำการตลาด ประสบความสำเร็จเกิดกว่า 70% แล้วครับ
ลองนำกฎทองการตลาดนี้ไปปรับใช้กับธุรกิจ และการขายสินค้า บริการของคุณดูน่ะครับ สำเร็จแน่นอน
ธวัชชัย สุวรรณสาร
ที่ปรึกษาการตลาด และการสร้างแบรนด์
086-6593823
กฎทองนี้สามารถใช้กับการทำการตลาดได้ทุกยุค ทุกสมัย ทุกช่องทางในการทำการตลาด หากคุณมีธุรกิจอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเล็ก กลางหรือใหญ่ ขอให้คุณกลับไม่ดูการทำการตลาดของคุณว่าสอดคล้องกับกฎทองที่ผมกำลังจะบอกนี้หรือไม่ หากขัดกับกฎทองทางการตลาดที่ผมบอก ขอให้ไปปรับโดยด่วน และผมกำลังจะบอกว่า หากธุรกิจของคุณกำลังประสบปัญหาขายไม่ดี ขายไม่เด่น ขายไม่ปัง นั่นแหละคุณกำลังทำขัดกับกฎทองทางการตลาดนี้
เอาล่ะครับเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
กฎทองของการทำการตลาด ( Golden Rule of Marketing ) ประกอบด้วย 2 หัวข้อหลักด้วยกัน
1. หากคุณจะทำการตลาดคุณต้องเจาะตลาด โดยพุ่งเป้าไปที่ลูกค้า
การทำการตลาดปัจจุบันแตกต่างจากการทำตลาดสมัยก่อนที่เน้นในตัวของสินค้า เน้นความยอดเยี่ยมของสินค้า ทำสินค้าด้วยความต้องการของผู้ผลิต ไม่ได้มีการเน้นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าเท่าใดนัก มีแนวคิดเพียงว่า " หากฉันผลิตสินค้าดี สินค้าเด่น ก็จะขายได้ทุกครั้ง " ซึ่งหากคุณนำแนวคิดที่เก่าคร่ำครึ นี้มาทำการตลาดในปัจจุบัน คุณจบแน่นอนครับ
ปรับความคิดการทำการตลาดปัจจุบันใหม่น่ะครับ ต่อไปนี้ให้คุณเน้นการทำการตลาด โดยเน้นที่ความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก สอบถามความคิดเห็นความต้องการของลูกค้าให้มากๆ ยิ่งได้ข้อมูลจากกลุ่มเป้าหมายมากเพียงใด คุณก็จะประสบความสำเร็จมากเท่านั้น เมื่อได้ข้อมูลจากลูกค้า กลุ่มเป้าหมายมาแล้วคุณค่อยทำสินค้าเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้า แค่นี้เองครับ
2. ความสำเร็จในการทำการตลาดของคุณขึ้นอยู่กับว่าคุณสามารถช่วยเหลือลูกค้าให้มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้อย่างไร
ง่ายๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจ สินค้า และบริการของคุณช่วยทำให้ลูกค้าของคุณประสบความสำเร็จ สะดวกสะบายขึ้น มีชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างไร ยกตัวอย่างเช่น คุณขายตู้เย็น เป็นตู้เย็นที่มีถึง 3 ประตูแบ่งอย่างชัดเจนระหว่างช่องแช่แข็ง ช่องแช่ผัก และช่องแช่ทั่วไป อย่างชัดเจน ง่ายว่าตู้เย็นประตูเดียวตรงที่ว่า ไม่ต้องเปิดประตูใหญ่ประตูแรก แล้วค่อยเอื่อมลงไปถึงถาดเก็บผัก สามารถเปิดประตูเพื่อหยิบผักได้เลยเป็นต้น ซึ่งสามารถสร้างความสะดวกสะบายใหักับลูกค้าในการประกอบชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี
หรือหากคุณขายอาหารตามสั่งทั่วไป ก็สามารถใช้กฎนี้ได้ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าสั่งผัดกระเพราะ แต่เขาไม่ชอบเผ็ดเลย คุณก็อาจจะเขียนป้ายบอกไว้ว่า " หากไม่ชอบเผ็ดสามารถบอกได้ค่ะ " เมื่อคุณรับออเดอร์คุณก็สามารถทำผัดกระเพราะให้ตรงกับลูกค้าที่ไม่ชอบเผ็ดได้ ลูกค้าก็กินได้ง่าย ไม่ต้องทรมานกับความเผ็ดของพริกเป็นต้น
ฉะนั้นคุณต้องตั้งคำถามในใจในฐานะลูกค้าของคุณเลยว่า สินค้าของคุณสามารถทำให้ลูกค้ามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ง่ายขึ้น และสะดวกขึ้นมากน้อยแค่ไหน List มาเป็นข้อๆ เลย หากคุณจดได้มาก สินค้าคุณทำการตลาด ประสบความสำเร็จเกิดกว่า 70% แล้วครับ
ลองนำกฎทองการตลาดนี้ไปปรับใช้กับธุรกิจ และการขายสินค้า บริการของคุณดูน่ะครับ สำเร็จแน่นอน
ธวัชชัย สุวรรณสาร
ที่ปรึกษาการตลาด และการสร้างแบรนด์
086-6593823
Post a Comment