Header Ads

พลังแห่ง O Zone ที่จะผลักดันผู้บริโภคของคุณจากการรับรู้ไปสู่การสนับสนุนสินค้าของคุณ

      บทความที่แล้วเราได้พูดถึงโมเดล เส้นทางผู้บริโภค 5 A's ในยุคการตลาดดิจิทัลกันไปแล้ว ซึ่งคุณน่าจะลองไปปรับใช้ในการทำการตลาดของสินค้า และแบรนด์ของคุณแล้ว แน่นอนว่า โมเดลการตลาดยุคดิจิทัล จะต้องนำ และผลักดันลูกค้าหรือผู้บริโภคจากการรับรู้ ไปสู่การสนับสนุน จึงจะถือว่าประสบความสำเร็จ ฉะนั้นในบทความนี้ผมจะแนะนำให้รู้จักกับ พลังแห่งการโน้มน้าวสำคัญ 3 อย่าง ที่คุณควรทราบเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวอย่างยั่งยืน


       และแรงผลักดันที่ผมกำลังจะพูดถึง ก็คือ 1. แรงผลักดันส่วนตัว ( Own influence )  2. แรงชักจูงจากบุคคลอื่น ( Other influence )  3. อิทธิพลภายนอก ( Outer influence )    โดยที่เราจะเรียกรวมแรงผลักดันทั้ง 3 อย่างนี้ว่า O Zone ครับ เรามาเริ่มเข้าใจแรงผลักดันทั้ง 3 ข้อนี้กันดีกว่าครับ

        1. แรงผลักดันส่วนตัว ( Own influence ) 

            มาจากแรงผลักดันของตัวลูกค้า หรือผู้บริโภคเอง มาจากประสบการณ์ในการซื้อสินค้า ประสบการณ์จากการได้รับความพึงพอใจจากสินค้า ความสัมพันธ์กับแบรนด์หรือสินค้านี้ในอดีตเป็นต้น  และม่ีหลายๆครั้งในยุคการตลาดดิจิทัลนี้ นี้ความชอบส่วนตัวนั้น มาจากการโอนเอน และรับข้อมูล มาจากคำบอกเล่าแบบปากต่อปาก จากบุคคลอื่น. รวมถึงการโฆษณาต่างๆ ด้วย

            ดังนั้นการที่คุณจะสร้างแรงผลักดันนี้ให้ทรงพลังมากขึ้น คุณต้องเน้นเสริมสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าให้ดีที่สุด โดยเฉพาะการบริการหลังการซื้อไปแล้ว เพื่อให้เกิดความประทับใจ จนเป็นความประทับใจให้ลูกค้า หรือผู้บริโภค เกิดการบอกต่อในกลุ่มที่เขาเป็นสมาชิกกลุ่มอยู่ โดยเฉพาะ Social Network 

        2. แรงชักจูงจากบุคคลอื่น ( other's influence ). 

            มาจากสภาพแวดล้อมภายนอก โดยส่วนมากมาจากคำบอกเล่าแบบปากต่อปาก  ในกลุ่มออนไลน์ต่างๆ หรือมาจากญาติสนิท มิตรสหาย สมาชิกในครอบครัว หรือมาจากการรีวิวสินค้า แต่ที่จะเห็นได้อย่างชัดเจนและเป็นที่นิยมก็คือ การคอมเมนท์ รีวิว แสดงความคิดเห็นในสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เช่น Facebook , twiter , Line  เป็นต้น ซึ่งแรงผลักดันจากกลุ่มคนในกลุ่มนี้ ถือว่าเป็นแรงผลักดันที่มีส่วนอย่างมากในการตัดสินใจซื้อ

             และหากต้องการให้แรงจูงใจจากบุคคลอื่นทรงพลังมากขึ้น คุณต้องใช้การตลาดในชุมชนเข้ามาเกี่ยวข้องเลย เน้นเข้ากลุ่มที่ผู้บริโภค และกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นสมาชิกในกลุ่มนั้น เป็นการทำการตลาดที่เน้นสมาชิกบุคคลแวดล้อมที่มีอิทธิพลต่อผู้บริโภคในการตัดสินใจซื้อ พูดง่ายๆ ก็คือเน้นกลุ่มสมาชิกในกลุ่มนั้น ไม่ได้เน้นที่ผู้บริโภคโดยตรงนั่นเอง

          3. อิทธิพลภายนอก ( Outer influence ). 

              อิทธิพลนี้มาจากโฆษณา และข้อมูลข่าวสารจากการโฆษณา จากข้อมุ,การทำการตลาดที่ทำขึ้น หรือมาจากการที่้ลูกค้าติดต่อ ประสานงานกับแบรนด์ในลักษณะอื่น จากพนักงานขาย. และพนักงานบริการลูกค้าดังนั้น หากต้องการเสริมพลังปัจจัยด้านนี้ คุณควรจะเน้นเรื่องการสื่อสารทางการตลาด การให้ข้อมูลที่ชัดเจน และตรงกับความเป็นจริง


             ฉะนั้นคุณควรจะนำปัจจัยทั้ง 3 ข้อนี้มาเป็นเครื่องมือในการบริหาร เพื่อทำกิจกรรมทางการตลาดเพื่อให้ประสบความสำเร็จ ตามผลลัพธ์ที่ได้มีการกำหนดไว้ต่อไป


ไม่มีความคิดเห็น