Header Ads

มีงบการตลาดน้อย ก็สามารถทำการตลาดให้ประสบความสำเร็จได้

     "มีเงินทำการตลาดน้อย เราจะไปสู้อะไรเขาได้"   "มีงบการตลาดน้อยจะทำยอดขายไปสู้แบรนด์ดังๆ ไปสู้บริษัทที่มีงบประมาณการตลาดมหาศาลได้อย่างไร"   "คงต้องถอดใจแล้วมั้ง งบการตลาดมีแค่นี้จะทำให้สนใจมันยากน่ะ แทบจะเป็นไปไม่ได้"

       หากคุณกำลังมีความคิดนี้อยู่ ได้โปรดลบออกไปจากสมองคุณเสียเดี๋ยวนี้  คุณเกิดยุคไหนครับ ยุคนี้เป็นยุคที่ใครๆ ก็ทำการตลาดได้โดยไม่ว่าขนาดองค์กรคุณ ขนาดธุรกิจจะเล็กหรือจะใหญ่ มันไม่สำคัญสำหรับยุคนี้แล้ว ยุคนี้เป็นยุคที่ธุรกิจขนาดเล็กสามารถที่จะทำการตลาดชนะ หรือล้มยักษ์ได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากเป็นยุคแห่งอินเตอร์เน็ต ขอเพียงแต่คุณใช้เครื่องมือทางดิจิตอล อินเตอร์เน็ตอย่างถูกต้องคุณก็ประสบความสำเร็จได้แล้ว



      เพียงแต่ว่าคุณต้องมี แนวคิด ที่ถูกต้องในการใช้เครื่องมือดิจิตอลเหล่านี้ในการทำการตลาด ไม่รวมเฉพาะการทำการตลาดดิจิตอลเท่านั้น  การทำการตลาดทั่วไปในยุคใหม่นี้หากคุณมีแนวทางที่ถูกต้องคุณก็สามารถทำการตลาด เพื่อสร้างยอดขายได้อย่างสบายๆ

      แล้วจะมีแนวทาง หรือวิธีคิดอย่างไรล่ะ ในการใช้งบประมาณที่มีอยู่ไม่มาก เพื่อหวังผลการตลาดในระดับที่มีคุณภาพ และประสบความสำเร็จ เพื่อไม่ให้เสียเวลาเรามาเริ่มกันเลยครับ

      1. หาลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจริงๆ ของคุณให้เจอ

          เป็นจุดอ่อนมากจริงๆ ครับสำหรับการทำการตลาดพบได้กับบริษัทขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ คือไม่รู้กลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงของตนเอง ทุ่มกระจายงบการตลาดไปกับสื่อต่างๆ โดยไม่รู้ว่าจะขายใคร ใครคือกลุ่มเป้าหมาย คิดว่าหากใครเห็นโฆษณาหรือสื่อที่เราทำการตลาดไป ก็จะขายคนนั้น หากธุรกิจไหนมีแนวคิดนี้จงเปลี่ยนความคิดใหม่ครับ  หากลุ่มเป้าหมายของตนให้เจอ แล้วเน้นงบประมาณ วิธีการทำการตลาดกับกลุ่มนั้น อย่าใช้งบประมาณอันมีค่าของคุณทำการตลาดแบบเหวี่ยงไปทั่ว ไม่มีประโยชน์เลยครับขอบอก

     2. เน้นในเรื่องของคุณภาพสินค้าที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า และทำให้สินค้าและบริการของคุณพบเห็นได้ง่ายที่สุด

         เหตุที่ต้องให้คุณวิเคราะห์ในข้อนี้ก็คือ คุณภาพของสินค้าที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า เน้นในเรื่องของคุณภาพให้หนัก ให้ดีไปเลยครับ ระวังน่ะครับหากคุณไม่เน้นคุณภาพ มุ่งเน้นแต่จำนวนการขาย ทุกวันนี้สิ่งที่มีอิทธิพลต่อ ผู้บริโภคมากที่สุดคือ คอมเม้นท์ต่างๆ การแชร์ข้อมูลต่างๆ ผ่านสืออินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์ แชร์ข้อมูลในแง่ลบของสินค้าออกไปครั้งเดียวคนเห็นเป็นหมื่นเป็นแสน เป็นล้านคน ฉะนั้นทำคุณภาพให้ดีไปเลยครับ สื่อสังคมออนไลน์จะได้แชร์ข้อมูลในแง่ดีของเราออกไป  อีกอย่างหนึ่งที่ต้องพิจารณาก็คือ หากคุณมีช่องทางการจำหน่าย ช่องทางประชาสัมพันธ์สินค้าไม่มาก  ผมอยากให้คุณใช้สื่อออนไลน์ครับ เช่น สื่อสังคมออนไลน์  Facebook   Line  IG หรือวิธีการทางออนไลน์ใดๆ ก็ได้ที่ทำให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณมองเห็น และสัมผัสได้มากที่่สุดครับ ยุคนี้ต้องทำหลายช่องทางเดียวครับ

       3. ให้ความสำคัญกับตัว Packaging ให้มากครับ

          ประเทศที่ใช้การทำการตลาดผ่าน Packaging ที่ได้ผลในระดับโลกคือประเทศญี่ปุ่นครับ  เพราะ Packaging ถือเป็นประตูหน้าในการตัดสินใจซื้อของลูกค้า ตัวหีบห่อ ไม่ใช่ค่าใช้จ่่ายสิ้นเปลืองที่คุณพิจารณาเป็นประเด็นสุดท้ายน่ะครับ Packaging  เป็นการสื่อสารที่สามารถสื่อถึงสินค้าได้ดีที่สุด เป็นสิ่งที่บอกถึงเรื่องราว (Story) ของสินค้า และสามารถจูงใจให้เกิดการซื้อได้ เป็นการสร้างความประทับใจให้กับผู้ซื้อได้ดี ตรงจุด  จนเกิดการแชร์ข้อมูลออกไปตามสื่ออินเตอร์เน็ตต่างๆ

      4. คุณต้องสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์กับแบรนด์ออื่นๆ ด้วย

         ยุคการตลาดแบบโดดเดี่ยว ผมว่ามันหมดไปแล้วน่ะ ยุคการตลาดปัจจุบันเป็นยุคการทำการตลาดแบบพันธมิตร เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จด้วยกัน ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน เช่นบัตรเครดิตต่างๆ ที่มีพันธมิตร บัตรเครดิต อิออน M Gen  ที่ผูกพันธมิตรกับ Major Cineplex มีส่วนลดตั๋วหนัง และให้ดูหนังฟรีเดือนล่ะ 1 ครั้งเป็นต้น  ปั้มน้ำมันต่างๆ ที่เติมน้ำมันแล้ว 700 บาทแถมน้ำดื่ม แถมกาแฟกระป๋องเป็นต้น  การสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ เป็นการลงทุนที่ไม่มากแต่ได้ผลตอบรับดีมากที่สุด  เป็นการส่งเสริมให้แบรนด์คุณแข็งแกร่งขึ้นมากมาย เลยครับ

      5. หากระแสทางสังคมที่เป็นที่สนใจในช่วงนั้น มาทำการตลาดให้กับสินค้า

         ไม่ว่าจะเป็นกระแสอะไร เทรนด์ที่กำลังนำสมัยที่ได้รับความนิยม  ละครที่กำลังดังเปรี้ยง  เทศกาลงานต่างๆ ฯลฯ สามารถนำมาสร้างกระแสทำการตลาดให้กับสินค้าคุณให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้ทั้งนั้น เช่นขนมยี่ห้อหนึ่ง ก็ทำการตลาดด้วยการแถม item เกมส์ดัง   ร้านอาหารที่นำกระแสฟุตบอลโลกมาทำส่วนลดสำหรับผู้รับประทานอาหารผู้ที่ใส่เสื้อทีมฟูตบอลประเทศที่เข้ารอบสุดท้ายมารับประทานอาหารเป็นต้น สามารถนำกลยุทธ์นี้มาใช้ได้ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะเล็ก หรือใหญ่แค่ไหนก็ตามครับ

      6. เลือกการใช้ Social Media ให้เหมาะสมกับสินค้า และบริการของคุณไม่ใช่ลงทุกช่องทาง

         แน่นอนคงปฏิเสธไม่ได้ว่า สื่อ Social Media เป็นสื่อออนไลน์ที่ส่งผลดีต่อการทำการตลาดมากมายมหาศาล แต่การลงสื่อ Social Media ทุกช่องทางโดยไม่ดูถึงความเหมาะสมของสินค้า ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ดีมากนัก อาจจะดูแลไม่ทั่วถึง และเกิดความสับสน ฉะนั้นคุณควรเลือกสื่อดังกล่าวให้เหมาะสมกับสินค้าของคุณเช่น สินค้าของคุณเป็นพวกขนม ของกิน และที่ต้องมีบริการหลังการขาย สื่อ Facebook น่าจะเหมาะสมเพราะมีทั้ง Page และ messenger ที่ใช้ติดต่อสื่อสารโดยตรงกับลูกค้า   แต่หากสินค้าคุณเป็นพวกเครื่องแต่งกายยุคใหม่ แฟชั่นนำสมัย  สื่อ Instragarm น่าจะเหมาะสมกว่าเป็นต้น

      7. ลงสื่อแล้ว ทำการตลาดแล้ว อย่านั่งบนหอคอย รอคอยผลอย่างเดียวโดยไม่พยายาม

        ใช่ครับ เป็นความผิดพลาดมากของเจ้าของธุรกิจ เจ้าของกิจการ นักการตลาด ที่ลงสื่อการตลาดแล้วปล่อยเลย รอผล รอความสำเร็จอย่างเดียว  คุณในฐานะผู้ทำการตลาดต้องออกเดินตลาด ออกพื้นที่วัดผลด้วยตนเอง เข้าพบลูกค้ากลุ่มเป้าหมายตัวเป็นๆ สอบถามถึงความพึงพอใจ  หาก Supplier และพันธมิตรทางธุรกิจบ้างเพื่อสร้างความสัมพันธ์  คุณอยากประสบความสำเร็จ ยอดขายโต การตลาดได้ผลคุณต้องใช้ความพยายาม และทุ่มเทให้มากกว่า  คิดวิเคราะห์ทุกวัน แก้ไขให้ดีขึ้นทุกวัน และเมื่อนั้นความสำเร็จก็จะเป็นของคุณ

ไม่มีความคิดเห็น