กลยุทธ์มด ล้มยักษ์ Content Marketing ที่คุณทำได้

     คุณเคยนึกอิจฉา ธุรกิจยักษ์ใหญ่ที่ใช้งบการโฆษณา และส่งเสริมการขาย เป็นแสน เป็นล้าน เป็นสิบล้านไหม และคุณคงคิดว่า " หากเรามีงบประมาณขนาดนั้น ธุรกิจของฉัน อาจจะมียอดขายที่กระฉูด และก้าวสู่ธุรกิจยักษ์ใหญ่ได้ "   เดี๋ยวก่อนผมกำลังจะบอกว่า คุณคิดผิด ปัจจุบันนี้มีกลยุทธ์หนึ่งที่ผมอยากจะแนะนำให้คุณได้รู้จัก เป็นกลยุทธ์ที่ทำอย่างแพร่หลาย เป็นกลยุทธ์ที่ มดๆ อย่างคุณสามารถที่จะ ล้มยักษ์ได้อย่างสบายๆ โดยที่คุณไม่ต้องใช้งบประมาณมากมายมหาศาลเลย  เพียงแค่สองมือ คอมพิวเตอร์ 1 เครื่องคุณก็ทำได้แล้ว   กลยุทธ์นั้นก็คือ " Content Marketing "

     ไม่ว่าธุรกิจจะมีขนาด เล็ก  กลาง หรือใหญ่ คุณสามารถใช้กลยุทธ์ Content Marketing มาใช้ได้หมดครับ กลยุทธ์ Content Marketing เป็นกลยุทธ์ที่มุ่งจะเสนอ สิ่งมีค่า มีประโยชน์ให้กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย แต่ในขณะที่กลยุทธ์การโฆษณา การส่งเสริมการขายแบบดั้งเดิมนั้น เน้นในเรื่องของผลประโยชน์ที่จะได้รับ  ซึ่งทำให้คุณค่าของการเสนอสื่อต่างๆ ผิดกันอย่างเห็นได้ชัด

     การให้สิ่งที่มีคุณค่า มีประโยชน์ ด้วย Content Marketing นั้นจะทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจในแบรนด์  จนเกิดเป็นความไว้วางใจในแบรนด์ ต่อตัวสินค้า  จึงทำให้เกิดความสัมพันธ์อย่างยั่งยืนกับลูกค้า เผลอๆ คุณจะมียอดขายเพิ่มขึ้น และเกิดการบอกต่อทำให้แบรนด์ของคุณ เป็นที่รู้จัก  หน้าที่ของคุณเพียงแค่คุณ ธุรกิจของคุณเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์  สิ่งที่ตนเอง ถนัด ผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ เช่น Blog ,Youtube ,Facebook   โดยคุณแค่เพียงเปลี่ยนบทบาทของตนเอง จากนักโฆษณา เป็นนักเล่าเรื่องราว ก็เท่านั้นเอง

    ผมขอยกตัวอย่าง เพื่อให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจนขึ้น

    สมมุติว่า คุณเป็นทำธุรกิจ บริการรักษาความสะอาด แทนที่คุณจะเสนอขายบริการของคุณโดยตรงเลย คุณก็อาจจะทำวีดีโอ การทำความสะอาดจุดต่างๆ ของบ้าน เช่น การกำจัดรอยดำง่ายๆ บริเวณพื้นกระเบื้องยาง บันทึกคลิปวีดีโอด้วย สมาร์ทโฟน แล้วก็โพสวีดีโอ ลง YouTube เพื่อให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณได้รับผลประโยชน์  เกิดการติดตามวีดีโอครั้งต่อๆไป  เมื่อกลุ่มเป้าหมาย ไว้ใจคุณ ชอบคุณ และแสดงให้เขาเห็นว่า คุณเป็นผู้ให้อย่างแท้จริง ก็จะเกิดการบอกต่อ เกิดความมั่นใจในสินค้าของคุณตามมา อันนำมาซึ่งยอดขายที่น่าประทับใจของคุณเอง

       พอเห็นภาพชัดขึ้นมั้ยครับ… ถามว่าทำไม content marketing ถึงเหมาะกับทุกๆ ธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ เล็ก กลาง ใหญ่

ประการแรก การสร้าง content ที่สุดยอด ไม่ได้ขึ้นกับเม็ดเงิน แต่ขึ้นอยู่กับ “เวลา” ที่ใช้การสร้าง content ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่ ธุรกิจขนาดกลาง และเล็ก มีเทียบเท่ากับแบรนด์ใหญ่ ดังนั้น ในเกม content marketing แบรนด์ใหญ่ ไม่ได้มีแต้มต่อเหนือ ธุรกิจขนาดกลาง และขนาดเล็กมากนัก ธุรกิจสามารถสร้าง content และแคมเปญการตลาดที่ดีเท่า หรือแม้กระทั่งดีกว่าแบรนด์ใหญ่ได้ ถ้ามีความมุ่งมั่นเพียงพอ

ประการต่อมา SMEs ส่วนใหญ่ยังมียอดขายไม่สูงเมื่อเทียบกับแบรนด์ใหญ่ ดังนั้น ถ้าสามารถสร้าง content marketing แคมเปญ “เพียงตัวเดียว” ให้ดังเปรี้ยง มีคนนำไปแชร์ บอกต่อกัน ตามโซเชียลมีเดีย ก็จะสามารถเพิ่มยอดขาย คิดเป็นเม็ดเงินใหม่ให้กับ SMEs จำนวนมาก ซึ่งการทุ่มเทในการทำ content ให้ดี แม้ได้เพียงตัวเดียว จะให้ผลคุ้มค่าต่อธุรกิจ ของคุณ หรือภาษาการตลาด เรียกว่า มี Return on Investment ( ROI ) ต่อแคมเปญ

Content Marketing สามารถนำมาใช้เพื่อทำให้สินค้าหรือแบรนด์ของ SMEs เป็นที่รู้จัก หรือที่เรียกว่าสร้าง awareness ให้กับตลาด ซึ่งนำมาสู่การหา leads การขายให้แบรนด์ งานวิจัยบอกว่า content marketing สามารถสร้าง sales leads ได้มากกว่าโฆษณาแบบดั้งเดิมถึง 3 เท่า

Content marketting ยังใช้สร้างภาพความเป็น “กูรู” ให้กับ SMEs ซึ่งทำให้ SMEs สามารถสร้าง “ความแตกต่าง” หรือ niche ให้กับแบรนด์ ทำให้ SMEs ไม่จำเป็นต้องพึ่งพากลยุทธ์การแข่งขันด้านราคา ซึ่งเป็นเกมที่ SMEs มักจะเสียเปรียบแบรนด์ใหญ่ มนุษย์จะเกิดความประทับใจ เกิดความเชื่อ กับคนที่เชี่ยวชาญ และสามารถตอบคำถามของเขาได้ ยิ่งคุณสร้างความเป็น กูรู ในธุรกิจ ในแบรนด์ของคุณ คุณก็ยิ่งประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น ง่ายขึ้น

            ในยุคดิจิทัล ผู้บริโภคมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปมาก งานวิจัยบอกว่า 80% ของผู้บริโภคจะเปลี่ยนช่องทีวีหนีเมื่อเจอโฆษณา หรือเวลาเลือกซื้อสินค้า ผู้บริโภคจะไม่เชื่อคำโฆษณาที่มาจากบริษัท แต่จะฟังคำแนะนำจากเพื่อน ครอบครัว หรือแม้กระทั่งคนแปลกหน้าที่พูดถึงสินค้านั้นในโซเชียล ดังนั้น แบรนด์ใหญ่หลายแห่งยัง “ติดกับดัก” ของตนเอง ทุ่มเม็ดเงินโฆษณาสินค้าอย่างอลังการ ซึ่งกลายเป็นตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เพราะลูกค้าไม่ฟัง ยิ่งโฆษณาเยอะ ลูกค้ายิ่ง “ระแวง”

            เมื่อเห็นความสำคัญ ที่แสนพิเศษของกลยุทธ์ Content Marketing เช่นนี้แล้ว คุณล่ะไม่ลองที่จะนำกลยุทธ์นี้ ไปใช้กับธุรกิจของคุณบ้างเหรอครับ