Header Ads

ใช้ Big Data สร้างความต่างให้ธุรกิจ ทำการตลาดเพื่อยอดขายพุ่งกระฉูด

    ยุคนี้คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นยุคแห่งโลกอินเตอร์เน็ต อย่างสมบูรณ์แบบ องค์กร ธุรกิจเกือบ 90% หันให้ความสำคัญในการใช้อินเตอร์เน็ตมาเก็ตติ้งกันมากขึ้น แบบทวีคูณ จากเมื่อก่อน ยุคการตลาดแบบเดิมใช้ข้อมูลที่มีการสืบเสาะด้วยการเดินตลาดตามที่ต่างๆ บ้าง  ลงสื่อหากลุ่มเป้าหมายทางหนังสือพิมพ์  วิทยุ ใบปลิว จดหมาย  แต่ปัจจุบันด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ด้วยอุปกรณ์เครื่องมือการสื่อสาร ที่ทันสมัยมากขึ้น จึงทำให้ข้อมูลเพื่อใช้ทำการตลาดเปลี่ยนแปลงไป


        ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภค เทคโนโลยีการตลาดที่เปลี่ยนไป และด้วยการเติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วยเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ต จึงทำให้ข้อมูลทางการตลาด เกิดขึ้นอย่างมหาศาล จึงทำให้เกิดนิยามศัพท์ทางข้อมูลทางการตลาดใหม่ขึ้นมา ที่เรียกว่า  " Big Data "

      ปัจจุบันคำว่า Big Data ได้เข้ามามีบทบาทในการวางกลยุทธ์การตลาดมากขึ้นในบริษัทใหญ่ๆ หลายๆองค์กรระดับโลก เริ่มใช้ข้อมูลจาก Big Data เกี่ยวกับ ข้อมูลการขาย สถานะของลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมาย การจัดเก็บสินค้า การเข้าออก ของสินค้า และอื่นๆ อีกมากมาย เข้ามามีส่วนสำคัญในการตัดสินใจทางการตลาด และกลยุทธ์ทางธุรกิจมากขึ้นอย่างแพร่หลาย

        เนื่องด้วย Big Data ยุคอินเตอร์เน็ต ไม่ใช่เฉพาะใช้ได้กับ ธุรกิจขนาดใหญ่ยักษ์ อย่างเดียวเท่านั้นธุรกิจขนาดเล็ก ตลอดจนธุรกิจ SME ก็สามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวมาทำการตลาดได้ เพราะด้วยอินเตอร์เน็ตทำให็ทุกๆ คนสามารถจัดการ และเข้าถึงข้อมูลผู้บริโภคเฉพาะกลุ่มได้ไม่ยากเย็น ด้วยมือคลิกเท่านั้น

        เห็นอย่างนี้แล้ว หากธุรกิจจะมองข้าม Big Data ก็คงไม่ใช่เรื่องดีนักในปัจจุบันวันนี้ผม จะนำคุณไปทำความรู้จักกับ Big Data หรือข้อมูลอันมหาศาลอันทรงคุณค่านี้ด้วยกัน ซึ่งผมว่าทุกๆ คนต้องนำไปใช้อย่างแน่นอน หากอยากจะประสบความสำเร็จทางการตลาดอย่างยั่งยืน

          Big data อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ ข้อมูลมหาศาลในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะได้มาจากภายในหรือภายนอกก็ตาม บริษัทจะนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์ โดยมีองค์ประกอบ 3V นั่นก็คือ volume คือ ข้อมูลต้องมีปริมาณที่มาก variety คือ ข้อมูลมีความหลากหลาย เช่น ตัวเลข ข้อความ อีเมล์ รูปภาพ รวมทั้ง เสียง วิดีโอ และ velocity คือ ข้อมูลเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น ข้อมูลบนโซเชียลมีเดีย ทุกวันนี้ บริษัทและองค์กรต่าง ๆ ในหลากหลายอุตสาหกรรม ได้เริ่มเก็บข้อมูลลูกค้าอย่างละเอียด

          ตัวอย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจน ก็คือ การที่ธนาคาร มีการประกาศไม่เก็บค่าธรรมเนียมในการโอนเงินธนาคารออนไลน์ เพื่อเป็นการขยายการใช้งานในรูปแบบออนไลน์ให้มากขึ้น เพื่อการเก็บข้อมูลของลูกค้า เมื่อข้อมูลการทำธุรกรรมดังกล่าวทำผ่านออนไลน์ ธุรกิจสามารถที่จะนำข้อมูลเหล่านั้น มาวิเคราะห์เพื่อตอบสนอง และทำผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการ รวมถึงรับทราบถึง Life Style ของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เพื่อตอบสนองความต้องการให้เจาะจงมากขึ้น

         คุณคงเห็นความสำคัญของการเก็บข้อมูลมหาศาล แล้วใช่ไหมครับ ผมขอสรุปถึงข้อดี 3 ข้อ จากการนำระบบ big data มาประยุกต์ใช้ง่าย ๆ ดังต่อไปนี้เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น

          1.  ช่วยให้รู้จักและเข้าใจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น 

          2.  ช่วยทำนายพฤติกรรมของลูกค้าได้แม่นยำ นำไปสู่การวางแผนออกแบบสินค้าและบริการให้ตรงกับความต้องการ 

          3. ช่วยให้เห็นเทรนด์ความต้องการของลูกค้าในตลาดได้ชัดเจน เช่น สินค้าใดจะเป็นที่นิยม สินค้าใดเริ่มแผ่ว ฤดูกาลใดเหมาะกับการขายสินค้าชนิดไหน จะได้เตรียมสินค้าให้พอเพียงกับความต้องการ

          >>>> ส่วนจะใช้ big data อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั้น ผมมีทริกมาให้ครับคือ 

          1. คุณจำเป็นต้องนำระบบออนไลน์เข้ามาช่วยในการเก็บข้อมูล เน้นออนไลน์ให้มากขึ้น เนื่องจากระบบออนไลน์ปัจจุบัน มีการเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ เชื่อผมเถอะครับ การเก็บข้อมูลโดยใช้ Paper นั้นหมดสมัยไปแล้ว เข้าสู่ยุคออนไลน์ได้แล้วครับ ปัจจุบันมีสื่อการตลาด ผ่านอุปกรณ์สื่อสารมากมาย ที่ปัจจุบันที่นิยมใชักันก็คือ Application ต่างๆ 

           2. รู้ว่าสิ่งที่ต้องการสำหรับบริษัทเราคืออะไร และมีปัญหาอะไรที่ต้องแก้ 

           3.  เรียนรู้ ลงมือทำ และเก็บข้อมูลสำคัญที่ตอบโจทย์ในสิ่งที่ตั้งไว้ 

            4.  นำข้อมูลมาใช้ช่วยตัดสินใจในเรื่องสำคัญต่าง ๆ เช่น กลยุทธ์การตลาดส่งเสริมการขาย การสั่งของเข้าในคลังสินค้า และนำมาใช้พัฒนาความสัมพันธ์กับลูกค้าด้วย ข้อนี้สำคัญมาก เพราะ big data จะช่วยวิเคราะห์ว่าทำไมลูกค้าจึงเลิกสั่งสินค้า ปัจจัยอะไรที่มีผลต่อการตัดสินใจของลูกค้า และยังบอกได้ว่าลูกค้าแต่ละคนสร้างมูลค่าให้กับบริษัทได้มากเท่าไร บางครั้งข้อมูลที่เก็บเองอาจทำให้เรายังรู้จักลูกค้าไม่ดีพอ เราสามารถดึงข้อมูล big data จาก google analytics หรือ facebook insights (ถ้าเรามีเฟซบุ๊กแฟนเพจ) เพราะข้อมูลเหล่านี้โชว์ให้เห็นเทรนด์และพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายโดยรวม ซึ่งสามารถนำมาวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลที่เรามีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำของผลลัพธ์

          การใช้ Big Data เข้ามามีบทบาทในการทำการตลาด และวิเคราะห์พฤติกรรมความต้องการ ของผู้บริโภคนั้น ไม่จำกัดแต่เฉพาะธุรกิจขนาดใหญ่อย่างเดียว ที่ผมบอกแล้วว่าข้อมูลเหล่านี้ ธุรกิจ SME สามารถนำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพียงแค่วางระบบในการเก็บข้อมูลออนไลน์ให้มากขึ้น ซึ่งเครื่องมือออนไลน์ก็มีอยู่มากมาย คุณก็จะได้ข้อมูลอันมหาศาล นำมาใช้ในการทำการตลาดของคุณแล้วครับ

           >>>>> เว้นแต่ว่า คุณจะช้าเกินไป  จนคนอื่นแซงหน้าคุณไป

ไม่มีความคิดเห็น