คุณต้องมีการสื่อสาร ในการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ Brand Image
การสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ หรือที่เรียกว่า Brand Image นั้น ต้องยอมรับครับว่าถึงแม้ว่า จะมีเทคโนโลยีทางอินเทอร์เน็ต Social Network Online Marketing เข้ามา การสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ในการตลาดไทย ยังน้อยมากเมื่อเทียบกับหลายๆ ประเทศ ก็เพราะว่า ในประเทศเรายังเห็นความสำคัญของกำไร และผลประกอบการ จนบังตาในเรื่องการภาพลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งเป็นการทำการตลาดที่สำคัญมากในปัจจุบันที่ขาดไม่ได้
การสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ หรือ Brand Image ไม่ได้จำกัดแค่ แบรนด์ หรือองค์กรขนาดใหญเท่านั้น ด้วยเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตที่มีตัวช่วยพลังทวีมากมายทำให้ธุรกิจ ขนาดเล็ก และขนาดกลางสามารถสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์มาเทียบเคียง และล้มแบรนด์ใหญ่ได้อย่างสบาย ฉะนั้นยังไม่สายเกินไปที่ทุกๆ ธุรกิจสามารถสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ เพื่อผลกำไร ผลตอบแทนจากธุรกิจที่ยังยืนกันดีกว่า
การสื่่อสารภาพลักษณ์ของแบรนด์ ให้เป็นที่รู้จักในปัจจุบันนั้น การสื่อสารเพื่อให้รู้ถึงประโยชน์ต่างๆ คุณสมบัติต่างๆ ของสินค้า หรือแบรนด์อย่างเดียวไม่เพียงพอเสียแล้วครับ คุณต้องสื่อสารให้เข้าถึงจิตใจ ความรู้สึก บุคลิกภาพของแบรนด์ของคุณ ไปเลย เช่นร้านก๋วยเตี๋ยวของคุณ จะสร้างแบรนด์เพื่อให้สอดคล้องกับรสชาด ก๋วยเตี๋ยวที่เผ็ดจัดจ้าน คุณก็สื่อสารทุกอย่่าง ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณา การแสดงภาพสินค้าเด่นๆของร้าน ให้จัดจ้าน เผ็ดร้อน ทั้งหมดเพื่อให้เกิดความชัดเจนเป็นต้น
ที่สำคัญการสื่อสาร ภาพลักษณ์ของแบรนด์ ต้องมีการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ทำๆ หยุดๆ ต้องมีกิจกรรมการประชาสัมพันธ์ การโฆษณา ส่งเสริมการขาย ต้องมีการสื่อสารให้หมดทุกๆ ช่องทางเท่าที่คุณจะสามารถทำได้เช่น การวิทยุ โทรทัศน์ ทางสื่อออนไลน์ Social Network Website หนังสือพิมพ์ และอื่นๆ ที่จะสามารถทำได้ ที่ผมบอกว่าให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้นั้นคือว่า หากคุณเป็นกิจการขนาดเล็ก ก็อาจจะใช้สื่อ อินเทอร์เน็ตให้มาก เพราะใช้ต้นทุนไม่สูงมากนัก และเน้นการสื่อสาร Area ในพื้นที่ ส่วนธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ มีเงินทุนมากๆ ก็อาจจะหลายช่องทางได้ ตามกำลังของธุรกิจแต่ละธุรกิจน่ะครับ
แล้วจะสื่อสาร ภาพลักษณ์ของแบรนด์ อย่างไรบ้าง?
ง่ายๆ เลยครับ ก็สิ่งที่ธุรกิจของคุณที่มีอยู่นั่นแหละครับ เช่นประวัติความเป็นมาของสินค้า และแบรนด์ของคุณ ลักษณะพิเศษของสินค้าของคุณ ความเฉพาะของเจ้าของกิจการบุคลิกภาพที่ไม่เหมือนใคร ทำอะไรให้กับสังคม และสิ่งแวดล้อมบ้าง สรุปทุกๆอย่างที่เกี่ยวกับธุรกิจของคุณนั่นแหละครับ ยกจุดเด่นออกมาให้หมดแล้วสื่อสารออกไปเลย แบบไม่มีกั๊ก นั่นแหละครับ ยิ่งคุณเปิดเผยข้อมูลมากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้เกิดขึ้น กับภาพลักษณ์ของแบรนด์คุณ มากขึ้นเท่านั้น หมดยุค หมดสมัยของการเก็บของดีไว้กับตัวแล้วครับ ปล่อยของออกมาเลย
การสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ ในยุคการตลาดสมัยใหม่ นี้ผมบอกได้เลยว่า หากคุณต้องการประสบความสำเร็จคุณต้องมองจากภายนอกสู่ภายใน ต่างจากสมัยโบราณคร่ำครึ ที่จะบอกจากภายในองค์กร สุ๋ภายนอกองค์กร คุณต้องมีการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ โฆษณา ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น สะท้อนบุคลิกภาพขององค์กร ของสินค้า และของแบรนด์ได้ อีกทั้งการที่ทำประโยชน์ให้สังคม ความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งหัวข้อหลังนี่แหละครับ ที่เป็นไฮน์ไลน์ ในการทำการตลาด โดยเฉพาะการสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ของคุณ
การที่องค์กรคุณ ธุรกิจของคุณเข้าไปมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคม และสิ่งแวดล้อมจะเป็นการสื่อสารภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ได้ผล และก่อเกิดภาพลักษณ์ที่ดีได้อย่างยั่งยืนที่สุด การช่วยเหลือสังคมโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน อาจจะทำได้โดยการเข้าร่วมกับองค์กรการกุศลเพื่อสังคมต่างๆ หากเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีเงินทุนมากหน่อย ก็อาจจะตั้งองค์กรการกุศลของตนเองขึ้นมา เพื่อช่วยเหลือสังคมให้กลุ่มเป้าหมายเห็นว่า ธุรกิจก็มีการให้กลับคืนแก่สังคม เช่นกัน มิใช่กอบโกยแต่กำไรเข้าองค์กรเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
สุดท้ายนี้ ขอสรุป เลยว่า การสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้เกิดขึ้นในระยะยาว และยั่งยืนนั้น ควรจะเป็นการสื่อสารให้กลุ่มเป้าหมายได้ทราบถึงการสร้างชื่อเสียงของธุรกิจ ให้สอดคล้องกับการสร้างคุณค่า และเห็นคุณค่าของสังคม ต้องมีการมองจากภายนอก เข้าสู่ภายใน กำหนดกลยุทธ์ประสานจากสังคมภายนอกก่อน เข้าสู่ภายใน ให้สังคมภายนอกเห็นว่า ธุรกิจของคุณได้สร้างประโยชน์ให้กับสังคม สอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กร นโยบายองค์กร โดยกำหนดเป็นวัตถุประสงค์หลักขององค์กร เพื่อให้สังคม และธุรกิจอยู่ได้ และได้รับประโยชน์ไปพร้อมๆกัน นี่แหละครับคือการสร้าง ภาพลักษณ์ ให้กับแบรนด์ของคุณอย่างแท้จริง และยั่งยืน
Post a Comment