โมบายเทรนด์ มาแทนสื่อหลักพลิกการตลาดยุคเดิมคุณต้องรู้ไว้
ใครๆ ก็ใช้อินเตอร์เน็ตผ่านมือถือ จนปัจจุบันยุคใหม่นี้ ใครไม่มี มือถือ หรือที่เรียกว่า Smart Phone ใช้จึงถือว่าเฉย และเป็นเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้ ยุคของการสื่อสารผ่านทางจอมือถือ จึงเข้ามามีบทบาทอย่างมากมายมหาศาล แม้กระทั่งการทำการตลาดยุคดิจิตอล อาจต้องพลิกบทบาทใหม่ไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ เพราะพฤติกรรมมันเปลี่ยนไปแล้ว
ประเทศไทยของเรามีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่านมือถือกว่า 40 ล้านเครื่องและจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตอาจจะเป็น 50 ล้านเครื่องในอีกไม่กี่ปีนี้ แล้วธุรกิจของคุณล่ะพร้อมรับเทรนใหม่ในการทำการตลาดเพื่อเรียกลูกค้ามหาศาลมากน้อยแค่ไหนแล้ว ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค หากคุณไม่ทราบถึงเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงไป คุณจะเสียประโยชน์อย่างมหาศาล
2.จอใหม่ของวีดิโอ (Mobile Cast)ในหลายๆประเทศการดูวีดิโอผ่านจอมือถือไม่ผ่านสื่อหลักกำลังเป็นโจทย์ที่่สร้างโอกาสใหม่สำหรับการทำการตลาด ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารวีดิโอผ่าน Youtube, Facebook หรือ ช่องทางอื่นๆในมือถือ ล้วนท้าทายนักการตลาดให้ข้ามผ่านการใช้คอนเทนท์ที่เหมือนกันในทุกจออย่างดั้งเดิมและหันมาสร้างลูกเล่นให้เข้ากับแพลตฟอร์มวีดิโอแบบที่ผู้บริโภคต้องการ เช่น วีดิโอเสมือนอยู่ในที่จริง 360 องศา เป็นต้น
3.ปิดการขายบนจอมือถือ (Mobile Commerce) ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายเงินผ่าน Apple Pay, Android Pay และน้องใหม่อย่าง Samsung Pay หรือการจับจ่ายผ่านสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ การจ่ายเงินผ่านมือถือกำลังเป็นตัวกลางที่ผู้บริโภคเปิดรับและไว้ใจมากขึ้นประกอบไปกับการระบุพิกัดจริงผ่าน Location-Based Technology ทำให้นักการตลาดสามารถสร้างข้อเสนอใหม่ๆ แบบตัวต่อตัว แบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นส่วนลด โปรโมชั่นพิเศษเฉพาะช่วงเวลา ก็เป็นการสร้างสีสันที่สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้บริโภค
4.ยิ่งกว่ามือถือ (Mobile & More)ในยุค Internet of Things ที่ทุกๆอุปกรณ์ดิจิทัลต่างสื่อสารและเชื่อมต่อกันได้เพื่อประสบการณ์ที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทคาร์ สมาร์ทโฮม หรือ น้องใหม่อย่าง Wearables ล้วนทำให้การสร้างประสบการณ์ของแบรนด์มีการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่มากกว่า 1 สมาร์ทโฟน เช่น การสื่อสารโดยใช้การติดตามข้อมูลเรื่องฟิตเนสผ่าน Apple Watch และนำมาสร้างสรรค์โอกาสการขายอื่นๆสำหรับแบรนด์อาหารและไลฟ์สไตล์สุขภาพ เป็นต้น
5.แอพสำหรับไลฟ์สไตล์เฉพาะ (Lifestyle-Focused Apps) จริงๆ โมบายแอพ ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่จุดน่าสนใจของปีนี้คือแอพที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ได้ และมีส่วนช่วยทำให้ผู้บริโภคสามารถบรรลุเป้าหมายในช่วงต่างๆของชีวิตได้อย่างดี และมีชีวิตที่ดีขึ้นในภาพรวม
ต่อจากกระแส Digital-First ตามมาติดๆด้วย Mobile-First ที่เป็นโจทย์ที่ท้าทายและเจาะลึกมากขึ้นสำหรับแบรนด์ว่าจะเข้ามามีพื้นที่อยู่บนจอสกรีนส่วนตัวในมือผู้บริโภคนี้ได้อย่างไร
การทำกลยุทธ์แบบ Mobile Native ที่เน้นการสื่อสารโดยมีมือถือเป็นสื่อหลัก มีตัวแปรที่สำคัญมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเข้าใจอินไซต์กลุ่มเป้าหมาย การเข้าใจความต้องการในเวลาและสถานที่จริง การเข้าใจความสนใจของผู้บริโภค ล้วนเป็นหัวใจหลักในการสร้างพื้นที่บนสกรีนนี้อย่างมีประเด็นและมีประสิทธิภาพ ในยุคที่เทคโนโลยีฉลาดขึ้น ความคาดหวังของผู้บริโภคก็มีมากขึ้นเช่นกัน
ประเทศไทยของเรามีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่านมือถือกว่า 40 ล้านเครื่องและจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตอาจจะเป็น 50 ล้านเครื่องในอีกไม่กี่ปีนี้ แล้วธุรกิจของคุณล่ะพร้อมรับเทรนใหม่ในการทำการตลาดเพื่อเรียกลูกค้ามหาศาลมากน้อยแค่ไหนแล้ว ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค หากคุณไม่ทราบถึงเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงไป คุณจะเสียประโยชน์อย่างมหาศาล
เรามาดูกันเลยครับว่า เทรนด์ โมบายที่นักธุรกิจ ผู้ประกอบการ และนักการตลาดคุณจะรู้ เพื่อให้ทันต่อกระแสนั้น เพื่อให้เข้าถึงพฤติกรรม ของผู้บริโภคในปัจจุบันนั้นมีอะไรกันบ้าง
1.ปรับขบวนข้อมูลเพื่อสร้างความหมายใหม่ (Meaningful Data) สิ่งหนึ่งที่มือถือสามารถให้ข้อมูลของผู้ใช้มากกว่าสื่ออื่นๆ คือการระบุพิกัด ตรงกับเวลาและสถานการณ์จริง การสื่อสารถึงผู้บริโภคแบรนด์ต้องฉลาดในการใช้ข้อมูลบิ๊กดาต้าเพื่อเข้าใจอินไซต์ใหม่นี้ ในการเข้าถึงได้อย่างตรงประเด็นและมีความหมายมากขึ้นกว่าเคย
2.จอใหม่ของวีดิโอ (Mobile Cast)ในหลายๆประเทศการดูวีดิโอผ่านจอมือถือไม่ผ่านสื่อหลักกำลังเป็นโจทย์ที่่สร้างโอกาสใหม่สำหรับการทำการตลาด ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารวีดิโอผ่าน Youtube, Facebook หรือ ช่องทางอื่นๆในมือถือ ล้วนท้าทายนักการตลาดให้ข้ามผ่านการใช้คอนเทนท์ที่เหมือนกันในทุกจออย่างดั้งเดิมและหันมาสร้างลูกเล่นให้เข้ากับแพลตฟอร์มวีดิโอแบบที่ผู้บริโภคต้องการ เช่น วีดิโอเสมือนอยู่ในที่จริง 360 องศา เป็นต้น
3.ปิดการขายบนจอมือถือ (Mobile Commerce) ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายเงินผ่าน Apple Pay, Android Pay และน้องใหม่อย่าง Samsung Pay หรือการจับจ่ายผ่านสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ การจ่ายเงินผ่านมือถือกำลังเป็นตัวกลางที่ผู้บริโภคเปิดรับและไว้ใจมากขึ้นประกอบไปกับการระบุพิกัดจริงผ่าน Location-Based Technology ทำให้นักการตลาดสามารถสร้างข้อเสนอใหม่ๆ แบบตัวต่อตัว แบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นส่วนลด โปรโมชั่นพิเศษเฉพาะช่วงเวลา ก็เป็นการสร้างสีสันที่สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้บริโภค
4.ยิ่งกว่ามือถือ (Mobile & More)ในยุค Internet of Things ที่ทุกๆอุปกรณ์ดิจิทัลต่างสื่อสารและเชื่อมต่อกันได้เพื่อประสบการณ์ที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทคาร์ สมาร์ทโฮม หรือ น้องใหม่อย่าง Wearables ล้วนทำให้การสร้างประสบการณ์ของแบรนด์มีการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่มากกว่า 1 สมาร์ทโฟน เช่น การสื่อสารโดยใช้การติดตามข้อมูลเรื่องฟิตเนสผ่าน Apple Watch และนำมาสร้างสรรค์โอกาสการขายอื่นๆสำหรับแบรนด์อาหารและไลฟ์สไตล์สุขภาพ เป็นต้น
5.แอพสำหรับไลฟ์สไตล์เฉพาะ (Lifestyle-Focused Apps) จริงๆ โมบายแอพ ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่จุดน่าสนใจของปีนี้คือแอพที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ได้ และมีส่วนช่วยทำให้ผู้บริโภคสามารถบรรลุเป้าหมายในช่วงต่างๆของชีวิตได้อย่างดี และมีชีวิตที่ดีขึ้นในภาพรวม
ต่อจากกระแส Digital-First ตามมาติดๆด้วย Mobile-First ที่เป็นโจทย์ที่ท้าทายและเจาะลึกมากขึ้นสำหรับแบรนด์ว่าจะเข้ามามีพื้นที่อยู่บนจอสกรีนส่วนตัวในมือผู้บริโภคนี้ได้อย่างไร
การทำกลยุทธ์แบบ Mobile Native ที่เน้นการสื่อสารโดยมีมือถือเป็นสื่อหลัก มีตัวแปรที่สำคัญมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเข้าใจอินไซต์กลุ่มเป้าหมาย การเข้าใจความต้องการในเวลาและสถานที่จริง การเข้าใจความสนใจของผู้บริโภค ล้วนเป็นหัวใจหลักในการสร้างพื้นที่บนสกรีนนี้อย่างมีประเด็นและมีประสิทธิภาพ ในยุคที่เทคโนโลยีฉลาดขึ้น ความคาดหวังของผู้บริโภคก็มีมากขึ้นเช่นกัน
ข้อมูลจาก : http://www.bangkokbiznews.com/
ธวัชชัย สุวรรณสาร
Marketing Mentor
Post a Comment